ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ซึ่งได้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ได้เดินทางมาถึงที่ทำการพรรค พปชร. เพื่อเตรียมร่วมประชุม โดยระบุว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด โดยมีความมั่นใจเรื่องฐานเสียง ซึ่งเป็นพื้นที่ของตัวเอง ส่วนพื้นที่อื่นนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นคู่แข่งที่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถไปประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้
"ผมเป็น ส.ส.เขต ถ้าเป็นพื้นที่ที่ดูแลอยู่ ไม่หนักใจ แต่พื้นที่อื่น ยังไม่เห็นคู่แข่งที่ชัดเจน" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
พร้อมระบุว่า การผลักดันให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเป้าหมายในการเลือกตั้งของทุกพรรค ซึ่งตนคิดว่า พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ และไม่เป็นห่วงเรื่องปรากฏการณ์แลนด์สไลด์
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรค ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนโยบายเรื่องการเพิ่มเงินสวัสดิการประชารัฐเป็น 700 บาท หรือที่ใช้แคมเปญว่า "ป้อม 700" ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีนโยบายด้านอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่มั่นคง ให้กับประชาชนในทุกมิติ
ส่วนกรณีหากหลังเลือกตั้งแล้ว พรรคพลังประชารัฐไปสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คงไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะทำอย่างไร คงต้องขึ้นกับมติพรรค แต่ส่วนตัวยืนยันว่าจะทำงานอย่างสร้างสรรค์ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และไม่คิดที่จะไปทะเลาะกับใคร
สำหรับการเสนอให้ปรับขึ้นค่าตอบแทนแก่องค์กรปกครองท้องถิ่นนั้น ทั้งร.อ.ธรรมนัส และนายวิรัช ต่างเห็นด้วย เนื่องจากไม่ได้มีการปรับขึ้นค่าตอบแทนให้มานานกว่า 10 ปี ทำให้ได้รับค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และมองว่าควรจะพิจารณาปรับขึ้นไปพร้อมกับค่าตอบแทนของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วย เพื่อความเท่าเทียมและทั่วถึง