พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ไปยัง อ.จุฬาภรณ์ ติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่ง อ.จุฬาภรณ์ เป็นอำเภอที่ประสบปัญหาการบริหารจัดการน้ำ อุทกภัยในฤดูน้ำหลาก และการขาดแคลนพื้นที่กักเก็บน้ำ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในฤดูแล้ง รวมทั้งขาดการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่ในเส้นทางผ่านของถนนสายเอเชีย อาทิ ศิลาจารึกหุบเขาช่องคอย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 และอนุสรณ์สถานค่ายบางระจัน 2 ที่ชาวบ้านรวมตัวกันต่อสู้กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ เป็นต้น
โดยนายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายอย่างเป็นกันเองกับเด็กนักเรียนและประชาชนที่มาให้การต้อนรับ พร้อมสอบถามปัญหาและความเป็นอยู่ ซึ่งในระหว่างการเดินทักทาย ประชาชนต่างให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี มีทั้งบอกรัก บอกให้นายกฯ สู้ ๆ พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับนายกฯ อีกด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกันอีกครั้ง จริง ๆ ได้เตรียมภาษาใต้มาหลายคำ แต่ลืมหมดแล้ว เพราะอยู่ท่ามกลางคนใต้ ก็เลยไม่ค่อยกล้าพูด แต่รู้ว่า คิดถึงจังฮู้ และมากๆ ด้วย วันนี้มาด้วยความยินดีอย่างยิ่งในฐานะนายกรัฐมนตรี มาตรวจราชการเหมือนที่เคยมา ครั้งนี้อาจจะพิเศษหน่อย ต้องการมาดูความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ทำไปถึงไหน อย่างไร งบประมาณที่ใช้ไปจำนวนมากพอสมควร เกิดผลงานปรากฏขึ้นมา แต่ก็ยังไม่พอ ยังไม่สมบูรณ์ และต้องดำเนินการต่อ รวมทั้งทำสิ่งใหม่เพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมุ่งส่งเสริมแนวทางในการนำจุดเด่นของจังหวัดที่มีอยู่มาใช้ในการต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการให้มีคุณภาพ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน และกระจายประโยชน์อย่างทั่วถึง ทั้งการต่อยอดการผลิตสินค้าและบริการด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมจากการทำสินค้าที่ระลึก
รวมทั้งการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มประเพณีศิลปวัฒนธรรม กลุ่มมรดกทางประวัติศาสตร์ กลุ่มท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน โดยใช้โอกาสจากการบูรณาการการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด หรือภายในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ เพื่อให้มีรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากให้ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ พัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราชให้เจริญและมั่นคงในทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การท่องเที่ยว การต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยยกระดับชุมชนให้มีความโดดเด่น แตกต่าง ด้วยการดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพในท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง พร้อมทั้งช่วยกันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมของตนเองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้ปรุงคั่วกลิ้งเนื้อ ของดีอำเภอจุฬาภรณ์ ซึ่งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ใช้เตาไม้ฟืนประกอบอาหาร หลังจากปรุงเสร็จนายกรัฐมนตรีได้ชิมแล้วพูดว่า "หรอยจังฮู้ หรอยแรง" พร้อมชูนิ้วโป้งให้แม่ครัว และให้คำแนะนำเรื่องการทำบรรจุภัณฑ์ในการจำหน่าย
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่อาคารอำนวยการและผู้ป่วยนอก ชั้น G รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับคณะแพทย์ว่า อนาคตวันข้างหน้าของประเทศ เป็นสังคมสูงวัยเต็มตัว แสดงว่าสุขภาพของเราดีมาก มีอายุยืนยาว รัฐบาลจึงต้องดูแลว่าจะทำอย่างไรให้ผู้สูงวัยมีอาชีพ มีงาน มีเงินใช้ในการดูแลตัวเอง ไม่เป็นภาระ
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับหมอด้วยว่า นายกฯ รักทุกคน ฝากช่วยกันหาวิธีรักษาโรคเกลียดชัง ให้รักกัน ไม่เกลียด ไม่โกรธกัน สภาพจิตใจมันแย่ ขอขอบคุณหมอทุกคน ขอให้มีความสุข และขอให้ประสบความสำเร็จทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายกฯ ได้เดินทักทายจับมือ ถ่ายภาพหมู่กับประชาชนที่มารอต้อนรับภายใน รพ. อย่างใกล้ชิด โดยประชาชนส่งเสียงให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ รักลุงตู่ๆๆๆ ดังก้องบริเวณชั้นล่างของโรงพยาบาล