นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันมีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งให้ถูกต้อง โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม มีประสิทธิภาพ และเกิดความเรียบร้อย เพื่อเป็นทางออกของประเทศ โดยการทำงานของ กกต.จะยึดตามกรอบของกฎหมาย และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครตามที่เป็นข่าว ซึ่งบางครั้งอาจไม่ถูกใจทุกคน เพราะไม่ได้มุ่งที่จะให้ถูกใจใคร อย่างเช่นเรื่องการแบ่งเขต ที่อาจมีผู้ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันก็มีผู้ได้รับประโยชน์
"หากทุกคนรับรู้กติกาบ้านเมืองตรงกัน ก็จะไม่ถูกจูงใจให้ทำผิดกฎหมาย ขอยืนยันว่า กกต.จะทำงานบนพื้นฐานของกฎหมายและประโยชน์ของประเทศชาติ หากยังเห็นว่ามีอะไรที่ กกต.ทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปแก้ไขกฎกติกา" นายแสวง กล่าว
ส่วนการคำนวณจำนวนราษฎรเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น กกต.ได้เตรียมมาตรการไว้รองรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 มี.ค.แล้ว ยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
"กกต.ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว แค่ให้สบายใจว่าทำแบบไหนถูกต้อง" เลขาธิการ กกต.ระบุ
ขณะเดียวกัน กกต.คาดว่าพรรคการเมืองทั้ง 86 พรรค จะสามารถดำเนินการเรื่องไพรมารี่โหวตได้ทันกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เพราะอยากให้มีพรรคการเมืองมาลงสมัครให้มากที่สุด และหวังว่าพรรคการเมืองจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน
*ถอดบทเรียนเลือกตั้ง 62 ป้องกันผิดพลาดซ้ำรอย
นายแสวง กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมา กกต.จะมีการซักซ้อมการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 18 ชั่วโมงก็ตาม ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงต้องพยายามให้ออกมาเรียบร้อยที่สุด ไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
โดย กกต.จะนำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาเป็นบทเรียน แล้วหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก เช่น กรณีจัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรล่าช้า กรณีจำนวนผู้ใช้สิทธิกับบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน
"หลังปิดหีบแล้ว ต้องตรวจสอบจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ให้ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่จ่ายออกไป ข้อมูล 5/18 (เอกสารรายงานผลคะแนนหน้าหน่วย) ที่ปิดไว้หน้าหน่วยเลือกตั้งกับที่นำมาลงเว็บไซต์ต้องตรงกัน บางคนบอกว่าผิดพลาดเล็กน้อยไม่เป็นไร แต่ผมคิดว่า แค่คนเดียวก็อยู่ไม่ได้แล้ว" นายแสวง กล่าว
ส่วนการจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น สามารถดำเนินการได้ตามกรอบของกฎหมาย ถ้าไม่เป็นการชี้นำ