นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยเพื่อให้เกิดความชัดเจน กรณีการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทย มาคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี เพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ว่า หากศาลเห็นว่าการใช้จำนวนราษฎรดังกล่าวไม่มีปัญหาข้อกฎหมาย กระบวนการต่างๆ ในการจัดการเลือกตั้งก็จะง่ายขึ้น
แต่หากศาลเห็นว่า มีปัญหาเขตเลือกตั้งก็จะต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งกกต.ยืนยันกับตนว่า ต้องการเวลาให้พรรคเล็กทำไพรมารีโหวต ซึ่งมีประมาณ 10 ขั้นตอน และต้องใช้เวลาทำอย่างน้อย 10-11 วัน ส่วนไพรมารีโหวตจะทำได้ขนาดไหน ขึ้นอยู่กับการแบ่งเขต ถ้าหากไม่สามารถแบ่งเขตเลือกตั้งได้ ก็ไม่สามารถทำไพรมารีโหวตได้ แต่หากย่นเวลาการรับฟังความเห็นประชาชน ก็จะใช้เวลาน้อยลง แต่ยืนยันว่าทั้งหมดอยู่ในกรอบเวลาที่ กกต.วางไว้อยู่แล้ว
"มันมีเวลาของมัน อยู่ในไทม์ไลน์ รัฐบาลไม่ได้เลือกตามใจชอบ ถ้ายุบได้ ยุบพรุ่งนี้แล้ว แต่มันไม่ได้ ถ้าศาลตัดสินวันที่ 3 มี.ค.นี้ว่าใช้ได้ กกต.แบ่งถูกแล้ว แบบนั้นก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าศาลเปลี่ยนเรื่องนี้ ทำให้เขตมันเปลี่ยน เขาอยากได้เวลา 10 วัน เพื่อให้พรรคต่างๆ ทำไพรมารีได้" นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิษณุ ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเอกสาร ซึ่งระบุขั้นตอนและไทม์ไลน์การจัดเลือกตั้ง ของ กกต. มากางอ่าน เพื่อยืนยันถึงการใช้เวลาทำไพรมารี่โหวต ประมาณ 10 วัน แต่ในเอกสารดังกล่าว มีการระบุถึงวันยุบสภาที่กำหนดไว้ ในวัน 15 มี.ค. ตามที่เป็นกระแสข่าวมาตลอดสัปดาห์ด้วย
ส่วนจะมีการยุบสภาในวันที่ 15 มี.ค.หรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ควรจะเกินนั้น ตนไม่กล้าบอกว่าวันนั้น เพราะอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้