นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวข้างสำนักงาน ก.พ. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล พร้อมนำต้นกัญชาและเด็กนักเรียนมาร่วมการแถลงครั้งนี้ด้วย เพื่อชี้ให้เห็นถึงมุมมืดของกัญชา
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กัญชาเป็นประเด็นที่แหลมคม เกิดจากความเร่งรีบของพรรคภูมิใจไทย ที่เร่งรีบออกกฎกระทรวง ทั้งที่กฎหมายลูกยังไม่ผ่านสภา เพื่อนำมาหาเสียง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังบอกว่ากฎกระทรวงมีความครอบคลุมอยู่แล้ว แต่พอมีปัญหาก็โทษว่าเพราะสภาไม่ยอมผ่านกฎหมายนี้ ซึ่งจากความไม่ชัดเจนของการควบคุมการใช้กัญชา ทำให้เยาวชนถูกมอมเมา โดยไม่มีความรู้และขาดวิจารณญาณ ซึ่งมองว่าสังคมควรมีการถกเถียงเรื่องกัญชาให้ตกผลึก ก่อนที่จะดำเนินการออกกฏหมายในการควบคุม
ในระหว่างการแถลงนายชูวิทย์ กล่าวว่า "กัญชาเสรีให้ออกกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนได้สูบกัญชา ขอต่อต้านการสูบกัญชาของเด็กและเยาวชน" โดยได้ให้เด็กและเยาวชน อ่านแถลงการณ์ และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการนำกรรไกรตัดหญ้ามาตัดต้นกัญชา
ส่วนเหตุผลที่มาทำเนียบรัฐบาลวันนี้ แทนที่จะไปกระทรวงสาธารณสุข เพราะต้องการมาเผารังหนู ตามมาตีหนู มาที่นี่เพราะนายหนูอยู่ที่นี่ ตนรู้จักกับพ่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และนายเนวิน ชิดชอบ เพราะตนเป็นนักการเมืองเก่า และเงินไม่สามารถเปลี่ยนตนได้
นายชูวิทย์ ยังฝากถึงประชาชนอีกว่า หากใครเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี ให้เลือกพรรคภูมิใจไทย แต่หากใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องเลือก พร้อมประกาศชัดว่าจะยังคงเดินหน้ารณรงค์ถล่มพรรคภูมิใจไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะนายอนุทิน สนับสนุนกัญชาเสรี พร้อมเดินทางไปบุรีรัมย์แน่นอน
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ส่งหนังสือมาขอเอกสารปมเงินทอนรถไฟฟ้าสายสีส้ม 30,000 ล้านบาทว่า ไม่แน่ใจว่านายศักดิ์สยาม สติดีหรือเปล่า เพราะตนตั้งข้อสงสัยไปยังกระทรวงคมนาคม แต่กลับมาขอเอกสารจากตน ทำไมไม่ไปขอที่นายกรัฐมนตรี เพราะตนได้ส่งเอกสารทุกอย่างให้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้ว
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ฉีกเอกสารที่กระทรวงคมนาคมส่งมา และโปรยทิ้งต่อหน้าผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าว และกล่าวว่า "ไม่ให้ค่าจริงๆ"
นายชูวิทย์ ยังฝากให้ประชาชนจับตาด้วย เนื่องจากหลังจากนี้ตนจะออกมาแฉข้อมูลเขากระโดง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ว่าข้อมูลนี้จะถล่มพรรคภูมิใจไทยได้มากน้อยแค่ไหน
พร้อมระบุว่า ในช่วงก่อนเลือกตั้ง จะเดินทางไปทั่วประเทศพร้อมโต๊ะแดง เพื่อไปต่อต้านกับพรรคการเมืองที่จะเข้ามาทุจริต