นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเปิดใจภายหลังได้รับแต่งตั้งว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาและพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรคมาโดยตลอด วันนี้จึงเป็นฤกษ์ดีที่ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทำงานการเมืองให้มากขึ้น ส่วนการเดินหน้าทำการเมืองเพื่อรณรงค์ไปสู่การเลือกตั้ง ขอให้เป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งตลอดการหาเสียงช่วงที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทำได้ดีมาโดยตลอด แต่ในภาวะที่ตั้งครรภ์ 7 เดือนก็มีขีดจำกัดการทำงาน ดังนั้นจึงพร้อมเข้ามาช่วยในลักษณะที่ตนถนัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า นี่คือก้าวแรกของการเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้เป็นขั้นตอน เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย โดยมีหลายท่านที่มีความเหมาะสม และต้องให้เกียรติผู้บริหารพรรคด้วย ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่ยุบสภาฯ ขอทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อน ในฐานะที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจมากว่า 30 ปี ตนจะขอทำให้เต็มที่จนถึงที่สุด หวังว่าข้อเสนอแนะของตน จะเป็นประโยชน์พรรคการเมือง
"วันนี้มาเป็นที่ปรึกษาให้ น.ส.แพทองธาร มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่คิดว่าจะช่วยประเทศชาติได้ หลังจากนี้จะไปช่วยหาเสียง ที่ผ่านมา เราทำธุรกิจก็อยู่แค่เมืองหลวงอย่างเดียว ซึ่งการลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการลงพื้นที่ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้ไปทำ แต่ก็ต้องมีความเป็นตัวตนของตัวด้วย และทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด" นายเศรษฐา ระบุ
สำหรับเวลาที่เข้ามาช่วยงานในช่วงที่เหลืออีก 2 เดือนก่อนการเลือกตั้งจะกระชั้นชิดไปหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อเวลากระชั้นเข้ามา ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น และเรามีทีมงานที่พร้อมจะทำงานอยู่แล้ว เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่เหมาะสม เข้าถึงประชาชนได้ มีนโยบายภาพใหญ่ที่ดีและทำได้จริง
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ นายเศรษฐา กล่าวว่า ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ ที่ท่านพูดออกมาตนก็รับฟัง ไม่มีคอมเมนต์อะไรมากกว่านี้ เพราะตนมีวัยวุฒิและประสบการณ์การเมืองที่น้อยกว่า