ผลจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ทันที ย่อมเกิดผลกระทบตามมาทั้งในการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในยุคปลายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอขา ที่ยังมีแผนลงทุนรอการอนุมัติเป็นจำนวนมาก
สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่กระทรวงคมนาคมเตรียมไว้เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ได้แก่
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีแก้ไข TOR ซึ่งกระทรวงคมนาคมกำลังรอการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สรุปข้อมูลมาให้พิจารณาก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
- โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ประกอบด้วย
1.สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,448.69 ล้านบาท
2.สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท
3.สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท
- โครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) (M5) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. วงเงิน 28,360 ล้านบาท
- โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR10) ระยะทาง 17 กิโลเมตร วงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท
ภารกิจสุดท้ายของนายศักดิ์สยามเมื่อวานนี้คือการนำคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด และการพัฒนาศักยภาพการเดินเรือในแม่น้ำป่าสัก
กรณีที่ศาลฯ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา ถึงแม้นายศักดิ์สยามจะเอาตัวรอดมาได้ แต่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยังคงติดใจในหลายเรื่องที่ไม่สามารถชี้แจงได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเข้าชื่อกัน 54 คนเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงจากกรณีดังกล่าวหรือไม่
โดยศาลฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องมีเหตุอันควรสงสัยว่านายศักดิ์สยาม ปกปิดการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี จึงมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.66 จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย