นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดโรงแรมเดวิสแถลงข่าวขบวนการทุจริตคอร์รัปชันที่ดินเขากระโดง การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ของบริษัทรับเหมารายใหญ่ และสวนกุหลาบคอนเน็คชั่นเอื้อประโยชน์
นายชูวิทย์ ระบุว่า พฤติกรรมของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นนักการเมือง เป็นฝ่ายบริหาร แต่กลับมีพฤติกรรมให้คนใกล้ชิดมาเป็นนอมินีถือหุ้นบริษัทของตัวเองแทนแล้วเข้ามารับงานในกระทรวงคมนาคม ซึ่งคดีของนายศักดิ์สยามต้องไปให้ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาด้วย และเชื่อว่านายศักดิ์สยามจะหมดอนาคตทางการเมืองแน่นอน
"นายศักดิ์สยามเมื่อเป็นรัฐมนตรี ได้สั่งให้ทางหลวง ทางหลวงชนบท รับงานทั้งหมด 1,220 ล้านให้กับบริษัท หจก.บุรีเจริญคอนสตัคชั่น...การกระทำนายศักดิ์สยามกินมูมมาม เลอะเทอะ" นายชูวิทย์ กล่าว
สำหรับพื้นที่เขากระโดง 5,083 ไร่ มีชาวบ้าน 35 ราย เป็นโจทก์ฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน แต่ท้ายที่สุด รฟท.ชนะคดี ชาวบ้านต้องรื้อถอนบ้านออกจากพื้นที่ แต่กลับเป็นที่ตั้งของสนามฟุตบอลช้างอารีน่า สนามแข่งรถ บ้านพักนายเนวิน ชิดชอบ และบ้านพักนายศักดิ์สยาม จำเป็นต้องรื้อทิ้งให้หมดเพราะ รฟท.เป็นเจ้าของทั้งหมด แต่ตระกูลชิดชอบครอบครองพื้นที่ทั้งหมดไว้ และสร้างสนามกีฬามาบังหน้า โดยมี รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คอยให้การสนับสนุน เท่ากับว่า รฟท.กระทำสองมาตรฐาน
นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยรายชื่อพนักงานของ บมจ.ช.การช่าง (CK) และบริษัทในเครือที่เข้าไปถือครองในพื้นที่ ต.หนองหญ้าเสือ อ.มวกเหล็ก สระบุรี ทั้งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเตรียมจัดสรรให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนคนจนไว้ แต่กลับมีฝ่ายกฎหมายทำหนังสือขอหารือภายในเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมายแปลงที่ดินดังกล่าว โดยให้พนักงาน CK ไปขอสินเชื่อจากธนาคาร ธ.ก.ส.และให้ปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินดังกล่าวเพื่ออำพราง ทำให้ ส.ป.ก.ยึดที่ดินคืนได้ยาก
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จะยื่นข้อมูลเอกสารทั้งหมดไปให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
พร้อมระบุว่า ในช่วงเดือนสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตนจะตามติดพรรคภูมิใจไทยไปทุกที่ และจะออกมาถล่มมากกว่านี้ พร้อมฝากไปถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล หากจะสนับสนุนเรื่องกัญชาก็ให้ทำไป ไม่จำเป็นต้องมาขัดแย้งกับตน เพราะตนไม่เคยไปทำอะไรนายสนธิ ถือเป็นวิถีประชาธิปไตย และยังสงสัยว่าทำไมนายสนธิถึงออกมาตำหนิตนด้วย ตอนนายสนธิติดคุกตนก็ดูแล แต่ตนไม่เคยโกรธ เพราะนายสนธิเป็นผู้ใหญ่ ไม่กล้าไปท้าตีท้าต่อย
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ตนไม่กล้ากล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกล้าพูดเต็มปากหรือไม่จะสามารถแลนสไลด์ได้ แต่ตนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งได้ประมาณ 200 ที่นั่ง และต้องไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรคอื่นๆ
นายชูวิทย์ กล่าวถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยว่า ตนเป็นคนที่รู้เบื้องหลังของนายเศรษฐาเป็นอย่างดี ซึ่งนายเศรษฐามีคนข้างกายที่คนในตลาดหุ้นรู้จักเป็นอย่างดี หากพูดไปอาจขนลุกกันหมด แต่ตนกับนายเศรษฐาไม่มีอะไรกัน และเมื่อนายเศรษฐาต้องการไปเติบโตทางการเมืองก็ปล่อยให้เดินไป แต่ขอเตือนว่าแผลมีแน่ๆ แต่เมื่อจะทำดีตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คงไม่ถูกนักที่จะออกมาทิ่มแทง
ในการแถลงข่าวครั้งนี้นายชูวิทย์ได้นำแผนที่เขากระโดง แผ่นป้ายไม่สนับสนุนกัญชาเสรี โดยมีการใช้ค้อนมาทุบรถไฟฟ้าจำลองระหว่างแถลงข่าว และตัดเค้กรูปที่ดินเขากระโดงแจกสื่อในช่วงท้าย