นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึง การแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ให้นำจำนวนคนต่างด้าวมาใช้ในการคำนวณ ส.ส.ว่า มีผลกระทบน้อยมาก เพราะมีเพียงแค่ 8 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส.พึงมี เพิ่ม และลด ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐมองว่าไม่ได้เป็นปัญหาเพราะมั่นใจในนโยบายที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อให้ประชาชนได้มีความรักใคร่สามัคคี และมีพลังในการเดินหน้าต่อสู้กับวิกฤตอื่นๆ ได้
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. ในจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. พึงมี เมื่อไหร่นั้น นายสันติ ระบุว่า ต้องรอหลังจากที่มีการยุบสภา พรรคพลังประชารัฐถึงจะพูดคุยในรายละเอียด ซึ่งคณะผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐสามัคคีกัน และมองว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ไม่ได้มีปัญหา
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐดูเป็นประชานิยมนั้น นายสันติ กล่าวว่า ไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นนโยบายสร้างเสริมโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ว่านโยบายหลายอย่างที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็ต้องมีแรงจูงใจบ้างแต่ไม่ได้ใช้เงินจนเลยเถิดโครงสร้างทางการเงินของรัฐบาล และตนก็อยู่กระทรวงการคลังย่อมรู้ว่า ต้องใช้เงินขนาดไหนระบบเศรษฐกิจของประเทศจึงจะรับได้