นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อยื่นหนังสือให้นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องใน 4 ประเด็น คือ 1.หยุดยั้งการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประพฤติผิดคุณธรรม 2.หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ประมูลงานอย่างไม่โปร่งใส ไม่สุจริต 3.ขอให้ดำเนินคดีกับนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรณีละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เลือกปฎิบัติ กรณีที่ดินเขากระโดง และ 4. ขอให้ตรวจสอบนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต คุมงบประมาณและสั่งการแทนรัฐมนตรี โดยแสดงเอกสารที่ นางสุขสมรวยส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เพื่อสั่งการให้เร่งรัดสัญญาให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการและให้รายงานอย่างใกล้ชิด
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่านายอธิรัฐตั้งใจทำงาน เพราะเป็น รมช.คนเดียวที่เหลืออยู่ในระหว่างที่ รมว.คมนาคม ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนี้อีกเมื่อใด โดยขอให้ตรวจสอบภายใน 15 วัน
โดยการฮั้วราคาประมูลงานของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในจังหวัดบุรีรัมย์ มีบริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ เป็นคู่เทียบ มี หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น รับงาน โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% แทบทุกงาน ส่วนที่ดินเขากระโดง ขอให้ตรวจสอบผู้ว่าฯ รฟท.ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งวันนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังประชุมเพื่อขอเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง ส่วนกรณีผู้ว่าฯ รฟม.ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมส่วนตัว
ด้านนายอธิรัฐ กล่าวว่า นายชูวิทย์ได้ยื่นให้ตรวจสอบ 4 เรื่องคือ 1.รถไฟฟ้าสายสีส้ม 2.เลขานุการ รมว.คมนาคม 3.ผู้ว่าการ รฟท. และ 4. ผู้ว่าว่า รฟม. ซึ่งตนจะเร่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มอาจจะพอทราบเรื่องมาบ้าง แต่อีก 3 เรื่องที่ยื่นมานั้นเพิ่งทราบ เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดง และเรื่อง เลขาฯ รมว.คมนาคม ซึ่งกรณีนี้ขอตรวจสอบก่อนว่า รมว.คมนาคม ได้มีคำสั่งมอบหมายงานให้เลขาฯ รมว.คมนาคม ทำอะไรบ้าง เรื่องที่ให้ตรวจสอบได้รับมอบหมายหรือไม่ เป็นต้น
นายอธิรัฐ กล่าวว่า การตรวจสอบจะแล้วเสร็จภายใน 15 วันตามที่นายชูวิทย์ต้องการหรือไม่ ตนยังตอบไม่ได้ เพราะต้องตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงก่อน แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกเรื่องมีคำตอบกับสังคมและเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย โดยเบื้องต้นคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นนั้นคงต้องแยกเป็นเรื่อง เช่น กรณีสีส้มเป็นเรื่องกฎหมาย จะไม่เกี่ยวกับจริยธรรมตัวบุคคลซึ่งเมื่อวันที่ 6 มี.ค.66 ตนได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมาชี้แจงข้อมูลแล้ว ซึ่งรับทราบ เรื่องที่มีการฟ้องร้อง 4 คดี ขณะนี้ยกฟ้องแล้ว 1 คดี เหลืออีก 3 ซึ่งตรงนี้ต้องดูรายละเอียดว่า เป็นอย่างไร หากจะดำเนินการต่อไป กรณีการฟ้องร้องยังมีอยู่ไม่สิ้นสุด จะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไร หรือจะต้องรอคำสั่งศาลให้จบก่อน
"กรณีสีส้มต้องบอกว่าอยู่ที่การตรวจสอบ ไม่ได้มีการสั่งชะลอ เพราะมีระเบียบกฎหมายให้ปฎิบัติตาม ทุกอย่างหากชี้แจงมีคำตอบสู่สังคมได้ก็เดินต่อได้ แต่หากไม่เคลียร์ เช่น อาจต้องรอคำสั่งศาลก่อนก็ต้องรอ จะไปต่อได้ไง รวมถึงการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เมื่อไหร่ ผมยังตอบไม่ได้ ยอมรับว่าหนักใจ ที่มีกรณีเหล่านี้ในช่วงท้ายรัฐบาลและกำลังจะเลือกตั้ง แต่หากสามารถทำให้สังคมสบายใจขึ้น ทำให้ประชาชนที่สงสัยเกิดความกระจ่าง ผมยินดีที่จะทำดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง เคลียร์และมีคำตอบทุกเรื่องให้มากที่สุด" นายอธิรัฐ กล่าว