น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นผู้หญิงร่วมกันแถลงข่าวนโยบายเพื่อผู้หญิงเนื่องในวันสตรีสากล ภายใต้ธีม "DigitALL: Innovation and technology for gender equality" นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ"
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคฯ เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสต่างๆ และจะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ โดยมีนโยบาย 2 อย่างที่จะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศอย่างทั่วถึง
นโยบายแรกคือ การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทักษะ ซึ่งเดิมทีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คือหนึ่งในความสำเร็จของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน, การพัฒนาทักษะอาชีพ, และการดูแล ปกป้องสิทธิสตรี, ผู้ด้อยโอกาส, ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อดูแลประชากรหญิงครอบคลุมทุกมิติ
ปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงยังเป็นปัญหา จากข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงที่เข้าถึงแหล่งทุนเพียง 30% เท่านั้น แต่อีก 70% ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในภาคค้าปลีก ซึ่งเติบโตน้อย กำไรน้อย และยังขาดเทคโนโลยี
พรรคฯ มีนโยบายต่อยอดความสำเร็จของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุน โดยเทคโนโลยีจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดการสร้างคน สร้างเครือข่าย เชื่อมตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงนวัตกรรม และเพิ่มการปกป้องสิทธิ์ต่างๆ เพื่อผู้หญิงทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิ
นโยบายที่สอง คือ การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งพรรคฯ เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจากที่เคยมีนายกรัฐมนตรีหญิง มีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และในภาคการเมืองผู้หญิงก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการเลือกตั้งที่ใกล้จะถึงนี้ พรรคฯ มีสัดส่วนผู้สมัคร ส.ส.หญิง 20% มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนที่มี 15% โดยไม่ได้มีการจำกัดเพศในการคัดเลือกผู้สมัครแต่มาจากความเหมาะสมเป็นหลัก
"พรรคเพื่อไทยยึดหลักความเสมอภาคทางเพศ (Gender Equity) เราจะทำให้เพศไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต เรายืนหยัดที่จะทำให้ทุกคนสามารถสานฝัน ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ทุกคนสามารถเป็นทุกสิ่งที่คุณต้องการได้" น.ส.แพทองธาร กล่าว