นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่ กทม., นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย, นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตคลองเตย, น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางคอแหลม-ยานนาวา และนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางนา-พระโขนง ลงพื้นที่ย่านคลองเตย ที่มูลนิธิครูประทีป และชุมชน 70 ไร่ เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชน
นางประทีป อึ้งทรงธรรม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ระบุว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคแรกที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวคลองเตยอย่างจริงจัง ที่ดินแห่งนี้เป็นของการท่าเรือฯ มาก่อน เมื่อมีการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือ ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนถ่ายสินค้า ส่งผลให้ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว สลัมคลองเตยจึงเติบโตขึ้นอย่างไร้ระบบ ไร้การพัฒนา มีความเหลื่อมล้ำสูง นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ว่าที่นายกรัฐมนตรีในอนาคต ได้เดินทางมารับฟังปัญหาของคนยากคนจนที่นี่ด้วยตัวเอง
จากนั้น ตัวแทนชุมชนคลองเตยได้ผลัดกันสะท้อนปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ ประกอบด้วย
1. ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจากการเวนคืนที่ดินของการท่าเรือ ประชาชนในชุมชนขอที่ดินสักแปลงจากการท่าเรือ ซึ่งมีที่ดินกว่า 2,000 ไร่ เพื่อให้คนในชุมชนนำมาพัฒนาที่ดินแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยให้ชาวคลองเตยมีที่อยู่อาศัย
2. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ไม่เพียงพอแล้วต่อครอบครัว หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสามารถขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทได้จริง คนคลองเตยก็รู้สึกยินดี
3. ปัญหาสุขภาพ วันนี้คนคลองเตยถูกตัดสิทธิหลายอย่าง ล่าสุด ก็มีการยกเลิกการให้บริการสิทธิบัตรทอง 9 โรงพยาบาลรอบชุมชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลไกลจากที่อยู่มาก ขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาในเรื่องนี้ และขอให้มีนโยบายออกมาดูเรื่องสิทธิประกันสังคมที่ไม่ครอบคลุม และกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้มีสิทธิประกันสังคมด้วย
4.ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของคนคลองเตย โดยพื้นที่คลองเตยมีปัญหาเรื่องอัคคีภัยสูงมาก แต่ชุมชน และผู้ปฏิบัติงานอาสาสมัคร ยังขาดอุปกรณ์ช่วยเหลือ จนถึงงบประมาณในการรักษาพยาบาลเมื่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ จึงฝากให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในส่วนนี้
5.เรื่องการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ทำอย่างไรที่จะสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทั่วถึง ได้เดินไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข และได้เรียนอย่างมีคุณภาพ ฝากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคต ทำให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาและมีอาชีพที่ดีทำในอนาคตด้วย
ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ได้มาฟังเสียงของพี่น้องประชาชนได้ทราบถึงความอัดอั้นตันใจและปัญหาพื้นฐานของชาวคลองเตย ซึ่งปัญหาที่เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม พวกเราพรรคเพื่อไทยจึงขอรับปัญหานี้เพื่อนำไปสู่วงนโยบาย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
วันนี้สังคมเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงมาก เรื่องค่าแรง คือนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย และให้คำมั่นสัญญาได้ว่าหากเราได้รับฉันทามติจากประชาชนให้เข้ามาเป็นรัฐบาลจะสามารถทำได้สูงกว่า 600 บาทแน่นอน เพราะเราจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างน้อยปีละ 5% และเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญโดยเฉพาะเรื่องค่าน้ำ และค่าไฟ จะต้องควบคุมได้
"พวกเราจะนำปัญหาที่ได้รับในวันนี้ ไปเข้าวงนโยบายของพรรค เพื่อหาทางออกอย่างรอบด้าน แล้วเราจะกลับมาจัดวงพูดคุยอย่างวันนี้อีกครั้ง เพื่อเอาแนวทางที่เราไปหามา มาตอบพี่น้องประชาชน เราไม่อาจสัญญาได้ว่าจะทำได้ทุกข้อ แต่เราจะพยายามหาทางแก้ไขทุกเรื่องให้อย่างสุดความสามารถ ส่วนเรื่องการหาเงินเข้าประเทศ เชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล และไม่ว่านายกฯ จะเป็นใครก็ตาม การค้าระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ และจะมีการจัดระบบเที่ยวบิน นำนักท่องเที่ยว และนำรายได้จากการท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศได้อย่างแน่นอน" นายเศรษฐา ระบุ