นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนและนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย แถลงถึงนโยบายเพื่อปฏิรูปวุฒิสภาว่า พรรคมีข้อเสนอให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน โดยใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ขณะที่คุณสมบัติของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ว.นั้น ต้องมีความเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจะกำหนดลักษณะต้องห้าม คือ ห้ามบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหารลงสมัคร หมายถึงบุคคลที่มีตำแหน่ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ ส.ว. หรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่วันรัฐประหาร เมื่อ 22 พ.ค.57 ไม่ว่าตำแหน่งใด ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 20 ปี
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอของพรรค จะกำหนดบทบัญญัติให้ ส.ว.เป็นกลางทางการเมือง ห้ามสังกัดพรรคการแมือง พร้อมกับมีบทลงโทษรุนแรง หากส.ว.ไม่เป็นกลางทางการเมือง เช่น การรับประโยชน์ การเรียกรับประโยชน์จากฝ่ายการเมืองเพื่อลงมติในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หากมีหลักฐานชัดเจน ต้องถูกถอดถอนและลงโทษอาญาอย่างรุนแรง
ส่วนการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้จะมีสิทธิสมัครส.ว.ดังกล่าว จะขัดกับหลักการของรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองหรือไม่นั้น นายสมชัย กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่จะเสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้น ส.ส.ร.จะสนับสนุนประเด็นดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ แต่ตนยืนยันในข้อเสนอที่จะเสนอต่อ ส.ส.ร.ในอนาคตแน่นอน
"หากเขียนรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอาญา ระบุว่า รัฐประหาร คือความผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกระทำผิดด้วย ดังนั้นแนวคิดนี้ต้องการสื่อสารให้เห็นว่าทำไม่ได้ ไม่ควรทำ ไม่ใช่ทำแล้วออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ตัวเอง เพื่อล้างความผิด จากนั้นสวมเสื้อคุลมประชาธิปไตยเพื่อลงเลือกตั้ง และสวมเสื้อคุลมประชาธิปไตยทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นสิ่งที่ไม่ใช่" นายสมชัย กล่าว
นายบุญส่ง ชเลธร ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ส.ว.เป็นปัญหาใหญ่และอุปสรรคของการพัฒนาประชาธิปไตย ทั้งนี้ ส.ว. จะมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ หากจะมี ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น ส่วนการกำหนดคุณสมบัติของส.ว.ในจุดยืนของพรรค คือ ไม่สนับนุนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนสนับสนุนระบอบเผด็จการเข้ามา