นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังงานเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของว่าที่ผู้สมัครและตัวแทนชุมชม เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบาย พปชร. ภายใต้หัวข้อ "นำไปสู่สิ่งที่พบเห็น เมื่อลงพื้นที่" และแถลงข่าว เรื่อง "บ้านประชารัฐ 360 องศา" ว่า โครงการบ้านประชารัฐ 360 องศา ถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่สร้างความมั่นคงให้ประชาชนในกทม. สอดคล้องนโยบายพลังประชารัฐ ที่เน้นการมีที่ทำกิน ไม่ยากจน โดยเริ่มจากทำอย่างไรให้คนกทม.มีบ้าน หรือมีกรรมสิทธิ์เป็นของตัวเอง โดยอาจเปลี่ยนจากเงินเช่า เป็นเงินผ่อน เพื่อให้สามารถเป็นกรรมสิทธิ์ตัวเอง หรืออาจทำในรูปแบบการทำสัญญาเช่า ทำให้เป็นสัญญาเช่าซื้อระยะยาว เพื่อสามารถเป็นเจ้าของได้
ส่วนคนที่มีบ้านแล้ว ทำอย่างไรจะพัฒนาให้ที่อยู่อาศัยดีขึ้น และทำอย่างไรให้คนกรุงมีบ้านที่มั่นคง มีหลักค้ำประกันในชีวิตได้ รวมถึงการทำสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้น่าอยู่ ซึ่งผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรค ได้ลงไปในพื้นที่และมีความเข้าใจปัญหาในพื้นที่ มีการวิเคราะห์ปัญหามาแล้ว ซึ่งนโยบายบ้านประชารัฐ 360 องศา ทำได้จริง ทั้งทางการเงินและทางกฏหมาย
ส่วนเวทีครั้งต่อไปในวันที่ 16 มี.ค. จะมีการหารือในมิติทางด้านสังคม โดยจะเป็นเวทีที่ผู้สมัคร ส.ส.และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันทำให้ประเทศไทย และกทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหลายด้าน มาตกผลึกกันว่าจะนำพา กทม.และประเทศไทยก้าวข้ามความขัดแย้งและเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร
ด้านน.ส.ชญาภา ปรีฎาพากย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางคอแหลม-ยานนาวา กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่พบว่า ปัญหาที่อยู่อาศัยยังมีความเป็นอยู่ที่ทรุดโทรม และส่วนใหญ่เป็นลักษณะสัญญาเช่าอยู่ระยะสั้น ซึ่งจากการหารือได้ข้อสรุปว่า ทุกคนต้องมีกรรมสิทธิ์บ้านของตัวเอง เพื่อช่วยลดความเลื่อมล้ำทางสังคมได้
นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตวัฒนา-คลองเตย กล่าวว่า โครงการบ้านพลังประชารัฐ 360 องศา มีการออกแบบให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและบริบทของชุมชน ให้ทุกคนในสังคมใช้ชีวิตเท่าเทียมกัน มีการเพิ่มแลนด์มาร์คให้ชุมชน เพิ่มช่องทางค้าขายที่ยั่งยืน อัพเกรดคุณภาพชีวิตในสังคมเมือง โดยจะเอาโมเดลไปทำจริง เริ่มที่ชุมชนลีลานุช เอกมัย 19 ซึ่งไปสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และจะมีการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการของคนในชุมชนนั้นๆ ซึ่งทั้ง 33 เขตจะดำเนินโมเดลนี้ต่อไป
ด้านนายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตราชบูรณะ-ทุ่งครุ กล่าวว่า เราจำเป็นต้องสร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม โดยนำที่ดินในที่ราชพัสดุมารีโมเดลใหม่ ผลักดันให้เกิดความร่วมมือภาครัฐและเอกชน มุ่งเน้นรูปแบบ PPP มากขึ้น ให้เอกชนมาช่วยสร้างบ้าน เพื่มพื้นที่สีเขียวให้เป็นแหล่งรายได้ให้กับประชาชน และส่งเสริมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย