นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องเรียนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มุ่งเป้าใส่ร้ายโจมตีพรรคภูมิใจไทย และทำให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของผู้สมัคร ส.ส. และพรรคภูมิใจไทย อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง โดยขอให้ กกต.ดำเนินการสืบสวนไต่สวน และใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งระงับยับยั้งการกระทำของนายชูวิทย์ ที่จะมีขึ้นอีกในอนาคต
โดยในหนังสือระบุว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎร จะครบวาระในวันที่ 23 มี.ค.66 ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ทุกพรรคเตรียมการเลือกตั้ง และการหาเสียง รวมทั้งพรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 นายชูวิทย์ ได้มีการแถลงข่าวที่โรงแรมเดอะ เดวิส และเผยแพร่ไปตามสื่อว่าจะถล่มพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นศัตรูของชาติ มีการคอร์รัปชั่น มีการโกง ซึ่งถือเป็นการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทยด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้คนเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคภูมิใจไทย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีของเฟซบุ๊ก "เนชั่นสุดสัปดาห์" วันที่ 7 มี.ค.66 ที่ลงภาพนายชูวิทย์ พร้อมข้อความว่า "ผมจะทำลายคะแนนของพรรคภูมิใจไทย" รวมทั้งคำพูดประกอบข่าวตอนหนึ่งว่า "นายศักดิ์สยาม เป็นคนหนึ่งที่อยู่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยามเป็นผู้รับเหมา นายอนุทิน ก็เป็นผู้รับเหมา นายเนวิน กำกับอยู่เบื้องหลัง ส่วนนายสนธิ เป็นที่ปรึกษา ผมบอกว่า อย่าเลือกพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้บอกว่าให้เลือกพรรคไหน" ซึ่งคำพูดดังกล่าว เป็นการชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เลือกผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเป็น ส.ส. โดยการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครของพรรค
รวมถึงกรณีเมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 นายชูวิทย์ ได้แถลงข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีการเผยแพร่ตามสื่อทั่วไป ซึ่งเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ ต้องการทำลายคะแนนเสียงของพรรค โดยมีเจตนาให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดและทำลายคะแนนนิยมของพรรคด้วยเช่นกัน
นายศุภชัย กล่าวว่า ส.ส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคน ต่างได้รับความเสียหายจากคำพูดของนายชูวิทย์ ที่ใส่ร้ายและทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดว่าพรรคภูมิใจไทยกระทำการเป็นปรปักษ์ของชาติ มีการคอร์รัปชั่นโดยใช้อำนาจหน้าที่ผิดกฎหมายเพื่อให้ได้รับประโยชน์อันมิควร และงดเว้นการกระทำใด อันจะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น จึงขอให้ กกต.สืบสวน หรือไต่สวนกรณีของนายชูวิทย์ ที่กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มาตรา 73 โดยขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับนายชูวิทย์ รวมทั้งขอให้ประธาน กกต. หรือ กกต. ใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งระงับ ยับยั้งการกระทำของนายชูวิทย์ ที่จะมีขึ้นในภายหน้าในการกล่าวถ้อยคำใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย