นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า หลังจากยุบสภาแล้ว จะลาออกจากพรรคเพื่อชาติ และจะไปสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทันที
ทั้งนี้ มองว่าพรรคการเมืองในปัจจุบัน คือ ประชาธิปไตยจอมปลอม และหลอกลวงประชาชน ใช้ประชาธิปไตยบังหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดเด่น 3 ข้อ คือ 1.เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ 2.มีความจงรักภักดี และ 3.ประชาชนรากหญ้าได้รับประโยชน์มากมายจากรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมา จากทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง
"วันนี้จึงไม่สนใจขั้วประชาธิปไตยจอมปลอมที่ผสมพันธุ์กันไปหมดแล้ว และทำพรรคเพื่อบริษัทหนึ่ง และตระกูลหนึ่ง หมายถึงพรรคไหนคนก็รู้ ส่วนอีกพรรคหนึ่งก็สุดโต่งจนประชาชนหวั่นไหวกันหมด อีกทางเลือกหนึ่งคือ การทำงานกับพรรคที่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน" นายศรัณวุฒิ กล่าว
พร้อมระบุว่า หากตนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ มีพรรคไหนที่ดีกว่าพรรค รทสช. และเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง
"การที่ผมได้อยู่พรรคที่มีนายกฯ ก็จะมีโอกาสได้เป็นส.ส. และอาจจะได้เป็นรัฐมนตรี หรือไม่ก็อยู่ที่การทำงานของผม ถ้าผมอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถช่วยลูกหนี้ทั้งแผ่นดินที่กำลังลำบากได้ นอกจากนี้ ผมยังนำนโยบายเกษตรร่ำรวยไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช. ไปพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ยังเสนอนโยบายด้านสวัสดิการต่างๆ เช่น การนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มายกระดับเพิ่มทักษะ เพื่อดูแลผู้สูงอายุ และให้ได้รับเงินเดือน 20,000 บาท โดยเลือกนิสัยดีและมีตังค์ ถ้าพรรคนำนโยบายนี้ไปใช้ ผมจะขอปวารณาตัวรับใช้เต็มที่ ยืนยันว่าผมไม่เคยต่อรองเพื่อได้อะไรจากพรรค รทสช. แต่ต้องการทำเพื่อประชาชนทุกคน" นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
ส่วนการที่ตนเคยท้า พล.อ.ประยุทธ์ ดวลปืนนั้น นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งต้องทำสุดชีวิต เมื่อวันนี้สถานการณ์เปลี่ยน ตนต้องยึดประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอโทษพล.อ.ประยุทธ์ สำหรับสิ่งที่ทำไป ตนไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะคนที่ย้ายพรรคกันไปกันมา ก็ไม่เห็นมีจุดยืนอะไร