นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้ว สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มั่นใจว่าเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล 99% การเข้าพรรคเพื่อไทยจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 ส.ส.
แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า โอกาสที่สถานการณ์การเมืองจะพลิกผัน การประเมินผิดพลาด และเป็นฝ่ายค้านนั้นมีเปอร์เซ็นต์ต่ำมากไม่ถึง 1% ส่วนโอกาสจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่อยู่ที่ประชาชน
พร้อมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถตีไข่แตกในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ซึ่งส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับคนภาคใต้หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เคยทำหรือมีแนวคิด เช่น การปลดล็อกกระท่อมออกจากยาเสพติด โครงการเปลี่ยนวัวชนเป็นซอฟท์พาวเวอร์ดึงดูดนักท่องเที่ยว การไกล่เกลี่ยหนี้สินให้ประชาชนทั่วประเทศได้ถึงแสนครอบครัว การตัดวงจรยาเสพติดสามารถยึดทรัพย์ได้หลายพันล้าน
"การเข้าพรรคเพื่อไทยก็จะนำนโยบายที่เคยทำเหล่านี้และมีแนวคิดจะทำไปนำเสนอ ดังนั้นขอให้คอยดู เพราะพรรคเพื่อไทยมีพื้นที่ว่างเพื่อให้ไปขับเคลื่อนได้ ถ้าได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด" นายสมศักดื กล่าว
ส่วนกรณีการจับขั้วการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย หลังมีข่าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นำคณะแกนนำพรรคภูมิใจไทย ไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพล้งประชารัฐ และวันถัดมา นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร นั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่เข้าพบเพื่ออำลา ในอนาคตถ้ามีปัญหาขัดแย้งก็สามารถพูดคุยกันได้
แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้อาจจะเขม็งเกลียวในการเลือกตั้ง แย่งคนจากพรรคนั้นไปพรรคนี้ วิพากษ์วิจารณ์ว่ากัน แต่หลังการเลือกตั้ง อาจต้องใช้คำพูดของ พล.อ.ประวิตร คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่วันนี้ไม่ได้จับมือตั้งรัฐบาล ไม่ได้คุย และตนไม่ได้มีหน้าที่
สำหรับคู่แข่งในสนามเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ คือความยากจนและการทำความเข้าใจกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง คู่แข่งไม่ใช่พรรคการเมืองที่จะสู้กัน เพราะมันข้ามจุดนั้นไปแล้ว
นายสมศักดิ์ ยังปฏิเสธไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่คนในพรรคเพื่อไทยให้การขานรับดีมาก และยืนยันจะไม่มีกลุ่มไปต่อรองใดๆ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร ตอนนี้แยกย้ายไปอยู่หลายพรรค
ส่วนคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง นายสมศักดิ์ มองว่า ต้องเป็นคนที่บริหารเก่งและเข้าใจเรื่องของเศรษฐกิจเข้าใจเพื่อนร่วมทีมงาน สามารถที่จะมีศิลปะและมีพาวเวอร์ในการควบคุมคน มีความเป็นธรรมและมีความเป็นกลาง มองประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งว่าที่แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ฟังแนวคิดสร้างตลาดเรื่องเศรษฐกิจก็ถูกใจว่าถ้าปฏิบัติได้น่าจะประสบความสำเร็จ
ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แม้เป็นทายาททางการเมืองตระกูลชินวัตร แต่คนมองว่ามีประสบการณ์ทางการเมืองน้อย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คนอายุน้อยทำอะไรได้มาก จะเอาคนอายุ 80 ปีมาทำงานก็ไม่ถูก อายุน้อยย่อมดีกว่าคนอายุมากในการตัดสินใจในการทำงาน ส่วนกระบวนการตัดสินใจไม่ต้องห่วงเพราะมีทีมงานผู้มีประสบการณ์ในพรรคเพื่อไทยช่วยสนับสนุน คนเป็นนายกรัฐมนตรีแค่ฟังคนให้เข้าใจและเดินตามแนวทาง ที่ตัดสินใจก็ไปได้ และมองว่า น.ส.แพทองธาร มีศาสตร์ มีคณิตศาสตร์ที่เก่งอยู่แล้วไปได้ การออกมาแสดงก็เข้มแข็งแข็งแกร่งและน่ารัก ส่วนโอกาสที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 นั้นก็มองเห็นและได้เป็นแน่