ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีมติเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็น 2 แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเบอร์ 1 และ เบอร์ 2 ตามลำดับ
นายพีระพันธ์ ประกาศว่า พรรคมติให้พล.อ.ประยุทธ์ ชิงนายกฯเบอร์ 1 ของพรรค ตามมติคณะกรรมการบริหารพรรครทสช. เพื่อนำทัพพวกเราสู้สนามเลือกตั้ง
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้แค่เลือก ส.ส. แต่เป็นการเลือกคนที่จะนำพาประเทศเดินหน้าไปแบบไหน พรรค รทสช.ขอประกาศตรงนี้ เราจะนำประเทศไทยของพวกเรา ให้เป็นประเทศอยู่แล้วมีความสุข เป็นประเทศที่อยู่แล้วมั่นคง เป็นประเทศที่มีความสามัคคีปรองดอง เราพูดแล้วเราทำแล้ว เริ่มต้นด้วยคนที่เคยสวมเสื้อต่างกัน ความคิดต่างกัน วันนี้รวมกันเป็น รวมไทยสร้างชาติ ภายใต้สามสี แดง ขาว น้ำเงิน ประเทศไทย
"ประเทศไทยของเรา คนไทยของเรา พี่น้องของเรา ยังอยู่ในความทุกข์อีกเยอะ ท่านพล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำของเรา ท่านบอกว่า 2 ปีต่อไป ถ้าผมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนไทยทั้งแผ่นดินต้องดีขึ้นแน่นอน ไม่ได้ขอโอกาสมาทำงาน แต่ทำให้ดูแล้ว ทำอยู่และจะทำต่อไปให้ดีกว่าเดิม"นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีพร้อมประกาศว่า พร้อมเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดยขอขอบคุณมติที่ประชุมที่เลือกตน ยืนยันว่าตนมีประสบการณ์การบริหารมาตลอด 8 ปี และพร้อมที่จะเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี และกล่าวถึงพรรครวมไทยสร้างชาติมีคนหลากหลายช่วงอายุ รุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมกันคิดและทำเพื่อคนไทยทุกช่วงอายุ ขอยืนยันว่าผู้สมัครทั้ง 400 คน พร้อมดูแลทุกคนทั้งประเทศ และเป้าหมายให้ได้ ส.ส.มากที่สุด แม้เป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่ แต่มีบุคลากรมากด้วยประสบการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า จะช่วยกันทำให้พรรครทสช.เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักให้คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทางผ่าน เราต้องเป็นสายตรง สายใหญ่ เส้นหลัก มอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ถ้าใครจะมาก็ต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่าน เราต้องร่วมมือกัน ให้เราได้มาให้ได้มากที่สุด เราจะได้ทำได้ดีขึ้น ได้สะดวกขึ้น
"เราต้องเดินหน้าไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน คือยุทธ์ศาสตร์ของเรา ยุทธศาสตร์ของประเทศ ดูแลทุกกลุ่ม เพราะคือหุ้นส่วนของประเทศไทย ประชาชนคือหุ้นส่วน คนตรงนี้ต้องทำให้ทุกคนมีความสุข ไม่ใช่บริหารธุรกิจ ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ต้องมีนโยบายที่จับต้องได้และถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว