นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ในระหว่างลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ถึงกรณีผลโพลติด 1 ใน 10 อันดับที่คนกรุงเทพฯ เชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่ได้เห็นโพลดังกล่าว แต่หน้าที่ของตน คือเป็นประธานที่ปรึกษาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ต้องเดินหน้าหาเสียง และปราศรัย พบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ พร้อมขอบคุณที่ประชาชนอยากให้มามีส่วนร่วม ซึ่งวันนี้ตนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
สำหรับโพลของพรรคเพื่อไทยที่ขึ้นนำนั้น เชื่อว่า ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนมา ก็ใช้นโยบายนำมาตลอด ขณะที่บุคคลคุณภาพในพรรคของเราก็มีอยู่จำนวนมาก จึงไม่แปลกใจที่โพลจะออกมาแบบนี้ และจะเดินหน้าเผยแพร่นโยบายที่ดี และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในส่วนที่ยังมีข้อกังขาอยู่ต่อไปอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีรายงานว่าใน 100 อันดับของบัญชีรายชื่อ ไม่มีชื่อของนายเศรษฐา และน.ส.แพทองธาร นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ฝ่ายบริหารก็คือฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติก็คือฝ่ายนิติบัญญัติ การที่ชื่อตนไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร ตนเข้าใจว่ามีหลายฝ่ายที่อยากให้แคนดิเดตนายกฯ อยู่ในบัญชีรายชื่อด้วย แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ได้บังคับไว้ และหากใครก็ตามที่ได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือต้องทำหน้าที่บริหารประเทศให้พี่น้องประชาชนพอใจ และปฏิบัติตามกฎหมายที่รัฐสภาเป็นผู้ออกมา และมีหน้าที่ที่จะต้องไปปรากฏตัว เพื่อตอบกระทู้เมื่อสภาถามมา ส่วนในสภาก็เป็นหน้าที่ ส.ส.ที่ต้องออกกฎหมาย ซึ่งความเห็นส่วนตัวแล้ว มองว่าแยกกันจะดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พูดถึงการแลนด์สไลด์ว่าระวังจะสไลด์ออกนอกเลนนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า คงจะคอมเมนท์ประเด็นนี้ไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจว่าสไลด์ออกนอกเลนคืออะไร และไม่อยากถูกลากเข้าไปในเรื่องของการตอบโต้กัน
"ท่านก็เป็นนายกฯ และเป็นผู้ใหญ่ ท่านอยากจะพูดอะไรก็เรื่องของท่าน เราก็รับฟัง หน้าที่ของผมคือการพบปะ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน" นายกรัฐมนตรี กล่าว