นายเพชร กรุณพล รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงลำดับของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลทั้ง 100 รายชื่อ พรรคจะพิจารณาเสร็จสิ้นในปลายสัปดาห์นี้ ขอให้รอติดตามผลในวันที่ 4 เมษายน 2566
ส่วนความคืบหน้าในการทำไพรมารี่โหวตของพรรคก้าวไกล จากที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ว่ามีพรรคการเมืองที่พร้อมส่งผู้สมัครทั้ง 77 จังหวัดจำนวน 3 พรรค โดยไม่มีพรรคก้าวไกล จนทำให้หลายคนสงสัยถึงความพร้อมของพรรคก้าวไกลนั้น ขอยืนยันว่าพรรคจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 77 จังหวัด โดยปัจจุบันเหลือ 1 จังหวัดที่ยังอยู่ในขั้นตอนไพรมารี่โหวต คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมนี้
ดังนั้น ขอให้ความมั่นใจว่าเรามีความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อทั้ง 500 คน ก่อนวันรับสมัคร ส.ส. แน่นอน
พร้อมระบุถึงผลสำรวจนิด้าโพล ที่พบว่าบุคคลที่คนกรุงเทพฯ สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้นเป็นสิ่งสะท้อนว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนนายกฯ หรือเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเชื่อว่าแนวโน้มนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคฯ ให้ความสำคัญกับการที่แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจากเมื่อย้อนกลับไปเมื่อช่วงพฤษภาทมิฬ ประชาชนออกมาสละชีวิต และต่อสู้เพื่อยืนยันหลักการเรื่องนี้ หลังจากนั้นรัฐธรรมนูญปี 2540 ทุกๆ ฝ่ายบอกว่าคือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และอยากเห็นรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาอีกครั้ง ซึ่งมีประเด็นเรื่องนายกฯ ต้องเป็นส.ส. พรรคจึงสนับสนุนหลักการเรื่องนี้ ส่วนรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญของเผด็จการ ที่ทำลายการต่อสู้ของประชาชน ซึ่งไม่มีการบรรจุเรื่องนายกฯ ต้องเป็นส.ส.
"ถ้าต้องการสร้างสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง ถูกต้อง พรรคฯ จึงยืนยันว่าแคนดิเดตนายกฯ ต้องเป็นส.ส. ดังนั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทนายกฯ จะเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 แน่นอน" นายรังสิมันต์ กล่าว