นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยก่อนประชุมทีมยุทธศาสตร์เลือกตั้งว่า ในวันนี้พรรคได้จัดระชุมภายในหรือเรียกว่า ประชุมลำโพงประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นการซักซ้อมเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคสำหรับผู้ที่จะนำไปขับเคลื่อนต่อ รวมทั้งไปขยายผลทั่วประเทศต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปัตย์พร้อมแล้วสำหรับก้าวเข้าสู่การเลือกตั้ง
"วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พรรคจัดทำไพรมารีตามกฎหมาย และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วจะได้รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนการจัดลำดับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้นในวันที่ 29 มี.ค.นี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นต้องรอผลจากการประชุมกรรมการบริหารพรรคกอ่น ซึ่งพรรคเคยทำมาตลอดอยู่แล้ว เพราะเรามี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมาหลายยุค และมีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว โดยรูปแบบจะมีการเรียงลำดับตั้งแต่ 1 จนถึง 100 เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคทุกประการ ส่วนการเสนอชื่อแคนดิเดทเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นไปตามที่กรรมการบริหารพรรคได้มีมติไปแล้ว
"แนวปฏิบัติการจัดลำดับบัญชีนั้นมีอยู่แล้วว่าต้องผสมปนเปกันไป ทั้งผู้อาวุโส คนรุ่นใหม่ ผู้หญิง และหลากหลายภาคส่วนที่จะต้องดูไปตามความเหมาะสม ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้พิจารณาขั้นสุดท้ายว่าจะเป็นไปทางไหน อย่างไร ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วันที่ 4 เม.ย.จะเป็นวันรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นก็ต้องเตรียมพร้อมก่อนวันที่ 4 เพื่อไปยื่นสมัครในวันที่ 4 ตามเวลาที่ กกต.กำหนด" นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับในพื้นที่ กทม.นั้น แม้ในการเลือกตั้งคราวที่แล้วพรรคจะไม่ได้ ส.ส.เลย แต่เที่ยวนี้ตนมั่นใจว่าได้หลายคน และจากการลงพื้นที่ก็มีความมั่นใจว่าทั้งคะแนนบัญชีรายชื่อ ทั้ง ส.ส.เขต จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มาหลายที่นั่ง
ส่วนกรณีที่มีผู้สมัครหลายคนจำเป็นต้องเปลี่ยนเขตอย่างกระทันหันหลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศเขตเลือกตั้งออกมานั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับ กทม.มีทั้งหมด 4 เขต และได้ประกาศตัวไปเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) สำหรับผู้สมัครบางคนอาจจะใหม่ บางคนก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในพื้นที่ แต่ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะพรรคจะลงไปช่วยเต็มที่ และทีมกรุงเทพฯ ก็มีความเข้มแข็ง คนกรุงเทพฯ ก็สามารถประเมินได้ว่าสุดท้ายแล้วจะตัดสินใจอย่างไร และเราก็ยังมั่นใจว่า แม้มีเวลาเพียง 2 เดือน สำหรับผู้สมัครก็จะลงพื้นที่ในนามพรรค รวมถึงคุณสมบัติก็มีความโดดเด่นทุกคน
นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดรับคำร้องเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.นั้นว่า เรื่องนี้ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตามที่ กกต.แบ่งเขต จะไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อ กกต.ประกาศอย่างนี้ ทุกพรรคก็ต้องปฏิบัติไปตามนี้ จนกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ก็พร้อม แม้ กกต.จะเปลี่ยนแปลงเขตในกรุงเทพฯ แต่ประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคแรกที่ประกาศพร้อมสู้ทุกกติกา และพร้อมส่งผู้สมัครครบทั้ง 33 เขต โดยไม่ได้ออกไปโวยวาย ฟ้องร้อง กกต. หรือออกไปทำอะไรให้เกิดความคับข้องใจ พรรคยินดีปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกติกาทุกกติกา ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นจุดยืนพรรคที่ชัดเจน
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีสิ่งที่จะเดินหน้าต่อไปคือ การจัด 3 ทัพ ประกอบด้วย ทัพหัวหน้าพรรค ทัพเลขาธิการพรรค และทัพอดีตหัวหน้าพรรค ที่จะขับเคลื่อนไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคอย่างมีเอกภาพ โดยวานนี้ได้มีการพูดคุยกับนายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะเดินหน้าในการที่จะไปช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคทั่วประเทศ