นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงนโยบายก๊าซเพื่อประชาชน โดยประกาศปรับโครงสร้างและรื้อราคาก๊าซหุงต้ม (ถังขนาด 15 ก.ก.) ที่ 423 บาท ลดราคาลง 173 บาท เหลือราคาใหม่ 250 บาท ซึ่งจะใช้งบประมาณอุดหนุนทั้งสิ้น 24,000 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี
นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ได้รับอนุญาตจาก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มาแถลงข่าวนี้ เนื่องจากราคาพลังงานไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนของพรรคพลังประชารัฐที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
"เมื่อพล.อ.ประวิตร ก้าวขึ้นเป็นนายกมนตรีคนต่อไป นโยบายนี้ท่านไฟเขียวอยู่แล้ว เพราะท่านต้องการช่วยเหลือปากท้อง ความเดือดร้อนของประชาชน เพราะฉะนั้น นโยบายนี้จะอยู่ในวาระต้นๆ และราคาก๊าซจะเป็นเรื่องเร่งด่วน" นายมิ่งขวัญ กล่าว
นายมิ่งขวัญ กล่าว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มขึ้นอีก 1 บาท/ก.ก. มีผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 ก.ก. จะปรับราคาขึ้นเป็น 423 บาท ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย และเมื่อวันที่ วันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการประกาศตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้จนถึง 30 มิ.ย.66 จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะใกล้ช่วงเลือกตั้ง จึงตรึงราคาไว้ แต่ถ้ารัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก ภาระจะตกไปอยู่กับรัฐบาลชุดหน้า
"เราจะต้องมีการรื้อ และปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อทำให้ประชาชนคนไทยได้รับความสุข ความเป็นธรรม และเกิดความโปร่งใสเป็นการใช้งบประมาณรายได้ของรัฐให้ถูกที่ถูกทาง คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน ทรัพยากรธรรมชาติต้องตอบแทนให้คนไทยกินดีอยู่ดีทั้งประเทศ เราจะลดราคาก๊าซเพื่อประชาชน จากราคาปัจจุบัน 423 บาทต่อถัง จะลดราคาลง 173 บาท ประชาชนคนไทยจะใช้แก๊สในราคา 250 บาทต่อถัง" นายมิ่งขวัญ กล่าว
พร้อมระบุว่า ในแต่ละปี คนไทยใช้ก๊าซหุงต้มประมาณ 2,087 ล้านก.ก. ซึ่งเป็นตัวเลขที่อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพลังงาน ปี 65 งบประมาณที่ใช้อุดหนุน ระยะเวลา 1 ปี คือ 11.53 บาท/ก๊าซ 1 ก.ก. สรุปว่า เราจะใช้งบประมาณอุดหนุนทั้งสิ้น โดยประมาณของ 24,000 ล้านบาท
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ที่กล้าประกาศออกมา เพราะต้องทำได้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 65 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย หลังจากเปลี่ยนระบบสัญญาสัมปทาน สู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต จึงทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ได้ปรับลดราคาลงจาก 279-324 บาท/ล้านบีทียู ลดเหลือ 172 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งจะทำให้รายได้กลับคืนสู่ภาครัฐมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 24,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราจะนำมาใช้อุดหนุนเพื่อลดราคาก๊าซ
ทั้งนี้ หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลด้านพลังงานทั้งหมด ทั้งก๊าซ และน้ำมัน รวมถึงไฟฟ้า คู่ขนานกันไป เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ
นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวถึงลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของตัวเองว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากพรรค ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องของทางพรรคพลังประชารัฐที่จะเห็นสมควร
"อย่าดึงให้ผมไปพูดการเมือง เพราะผมจะพูดแต่เรื่องเศรษฐกิจ จนกว่าพวกเราจะมีความสุข" นายมิ่งขวัญ ระบุ