นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่นายธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุเหตุผลที่ พท.ให้การต้อนรับกลุ่มสามมิตรอย่างอบอุ่น เพราะตนช่วยแก้กฎกระทรวงขณะเป็น รมว.ยุติธรรม เพื่อรองรับกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำ และมีโอกาสได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากการตรา พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ที่กำหนดสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำให้เป็นสถานที่คุมขังตามกฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อปี 2563 นั้น น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริง
คำสัมภาษณ์ดังกล่าว มีความพยายามจะเชื่อมโยงให้เห็นว่า ตนเป็นคนออกกฎกระทรวงที่รองรับนายทักษิณ ให้ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำ แต่อาจใช้สถานคุมขังอื่นตามกฎกระทรวง เช่น บ้านพัก หรือโรงพยาบาล แต่ข้อเท็จจริง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 เริ่มร่างเมื่อปี 2558 เพื่อปฏิรูปงานราชทัณฑ์ ด้วยการยกเลิก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2479 ซึ่งใช้มา 80 ปี โดยขณะนั้นตนยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม และตนเข้ามาเป็น รมว.ยุติธรรม เมื่อปี 2562
ส่วนการออกกฎกระทรวงใหม่เป็นขั้นตอนสืบเนื่องจากการออก พ.ร.บ. เมื่อประกาศใช้ในปี 2560 ส่วนราชการเจ้าของกฎหมายก็ต้องยกร่างกฎกระทรวงใหม่ โดยได้เริ่มยกร่างมาตั้งแต่ พ.ร.บ.ยังไม่ประกาศใช้ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี จากกรมราชทัณฑ์ไปกระทรวง ส่งเข้า ครม. ส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง แล้วถึงส่งคืนมาให้ รมว.ยุติธรรม ลงนามในปี 2563
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการกำหนดสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น เจตนาของกฎหมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ต้องขังบางประเภทที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเรือนจำ อันเป็นเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม และทางด้านการปกครองเรือนจำเป็นสำคัญ เช่น ผู้ต้องโทษระยะสั้น ผู้ใกล้จะพ้นโทษ ผู้ป่วย แต่ไม่ใช่นักโทษเข้าใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง
ดังนั้น ที่นายธนพร อธิบายความเชื่อมโยง ก็เป็นการสร้างความเข้าใจที่คาดเคลื่อน รวมถึงนายทักษิณ ก็เพิ่งประกาศว่าจะกลับประเทศไทย จึงเป็นไปไม่ได้ที่กล่าวหาว่ามีการดีไซน์เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อรองรับนายทักษิณ
"เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาแบบไม่ตรงเหตุและผล ซึ่งปกติ ผมจะไม่ค่อยออกมาตอบโต้ แต่ด้วยเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด ให้แก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ที่มีความตั้งใจแก้กฎหมาย เรื่องนี้แค่ดูปี พ.ศ. ที่ออก พ.ร.บ. ก็ไม่ใช่ยุคผมเป็นรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นจะมาชี้นำว่าผมเป็นคนช่วยแก้กฎหมายเพื่อรองรับคุณทักษิณ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การแก้ไขกฎหมายไม่สามารถทำตามอำเภอใจของรัฐมนตรีได้ เพราะจะมีกลไกการตรวจสอบ ตั้งแต่การยกร่าง ครม. กฤษฎีกา และสภาฯ โดยการนำเรื่องมาผูกโยงเองแบบนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผมผิด" นายสมศักดิ์ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ รมว.ยุติธรรม ได้ทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน จนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยกให้กระทรวงยุติธรรมในยุคของตน จากเกรด C มาเป็นเกรด A เพราะมีหลายโครงการที่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง