นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากการประเมินผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ มั่นใจว่า มีโอกาสชนะได้สูงใน 12-14 เขต เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่หมด คู่แข่งถูกโยกไปอยู่ในเขตที่ไม่เคยทำพื้นที่มาก่อน จึงมีโอกาสสู้ และมีความได้เปรียบ แม้จะเป็นพื้นที่ใหม่ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่พรรคได้รับหมายเลข 37 ในการหาเสียงครั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคบอกจดจำง่าย เป็นการสื่อสารให้กับประชาชนได้เลือกพรรคพลังประชารัฐได้ โดยเลข 3 มาจาก 3,000 เป็นสวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุ ส่วนเลข 7 มาจาก 700 บัตรสวัสดิการของรัฐ ดังนั้นทำให้จำง่ายๆ เลือกลุงป้อม 3700 แต่จะใช้เป็นแคมเปญใหม่หรือไม่ ตอนนี้กำลังหารือกับผู้สมัครของพรรค เพื่อจะบอกกับประชาชนว่า พลังประชารัฐ 3700 ตอนนี้ทุกอย่างจะผูกให้เป็นหมายเลข 37 คือ 3 นโยบายเร่งด่วน 7 นโยบายเร่งรัด
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พอใจกับเลข 37 หลายคนก็บอกเป็นเลขมงคล 3+7 เป็น 10 เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับพรรคและหัวหน้าพรรค และส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเลขที่ดี อีกทั้งจะเป็นการสร้างการรับรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐ 3700 รวมทั้งหมอดูต่างๆ กล่าวว่า เลข 37 เป็นเลขมงคลที่ถูกโฉลก จะทำให้ได้รับชัยชนะ โดยต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ หลังจากเห็นเลข 37 ว่าจะต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ นอกจากต้องช่วยกันจำ เวลาไปคูหากาบัตรเลือกตั้ง ต้องมองหาโลโก้และชื่อพรรคเป็นการจดจำง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครก็มีหมายเลขของตัวเองเช่นกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการสื่อสารของผู้สมัคร ซึ่งตอนนี้หลายคนได้เริ่มทำคลิปส่งมาให้ดู เป็นภาพของหัวหน้าพรรค และเลข 37 ส่วนผู้สมัครก็จะขึ้นตัวเลขของตนเป็นการประชาสัมพันธ์คู่กัน ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่สร้างความสับสนแน่นอน เพราะประชาชนได้รับการชี้แจงแล้วว่าจะต้องเลือกตั้งบัตร 2 ใบ คนละเบอร์
สำหรับการปราศรัยของพรรค จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ 10 เวทีใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงเวทีย่อยอีกเป็นร้อย และจะปิดการปราศรัยเวทีสุดท้ายที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ประชุมกำหนดไว้วันที่ 12 พ.ค.66 อาจจะเป็นสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยวันศุกร์ 7 เม.ย.นี้จะมีจัดปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สวนเบญจกิติ จากนั้นวันเสาร์ที่ 8 เม.ย.66 ปราศรัยเวทีใหญ่ที่ จ.สมุทรสาคร สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ตนจะลงไปช่วยที่อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปพูดเรื่องนโยบายให้ชาวภาคใต้ได้รับรู้กับนโยบาย 3700