พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 จัดงานทำบุญ ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดของพรรค ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า บรรดาแกนนำพรรคทยอยมาถึงที่ทำการพรรคอย่างต่อเนื่อง เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์, นายศุภชัย ใจสมุทร ตลอดผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับผู้ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีเป็นพรรคการเมืองแรก คือ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ได้นำกระเช้าดอกไม้ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มาร่วมแสดงความยินดี โดยนายชัยวุฒิ กล่าวอวยพรขอให้พรรคภูมิใจไทยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ชนะไปด้วยกัน และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันต่อไป
ด้านนายสันติ กล่าวว่า เรื่องของการร่วมรัฐบาลในโอกาสต่อไปนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน แต่ด้วยความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ส่วนเรื่องของนโยบายการทำงาน ทั้ง 2 พรรคก็ไปด้วยกันได้ ไม่มีความขัดแย้ง พร้อมร่วมมือกับพรรคที่จะทำงานเพื่อประชาชน และที่ผ่านมาก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันมา ก็สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความชัดเจนในการวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย ว่า เป็นการนำเสนอทางเลือกให้พี่น้องประชาชน และเป็นทางเลือกที่ตั้งใจทุ่มเททำงานให้กับประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคกำลังลงพื้นที่อย่างเต็มที่
เมื่อถามถึงกรณีนายชัยวุฒิ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าพร้อมจะจัดตั้งรัฐบาลไปด้วยกันนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีความปรารถนาดีต่อกัน ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วคือรัฐบาลมีเสถียรภาพอยู่ครบ 4 ปี
ส่วนกรณีที่ล่าสุดศาลแพ่งมีคำสั่งให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หยุดโจมตีพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนโยบายกัญชานั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการด้อยค่า ทำให้พี่น้องประชาชนรับฟังสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย เราคงไม่สามารถจะไปห้ามใครพูดได้ จึงต้องอาศัยบารมีของศาลที่จะให้การคุ้มครองพรรคภูมิใจไทย
พร้อมขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งระเบียบข้อกำหนดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ระบุไว้อยู่แล้วว่าห้ามไม่ให้ "ผู้ใด" พูดจาด้อยค่า ชักจูงประชาชนให้เข้าใจผิดต่อพรรคการเมือง ซึ่งหมายความว่าใครก็ตามที่พูดด้อยค่า พูดไม่ดี พูดให้คนเกิดความเข้าใจผิด ก็เสมือนเป็นการหมิ่นประมาท
"วันนี้เราก้าวข้ามจุดนั้นไปแล้ว เราลงสมัครแล้ว เราได้เบอร์แล้ว เรามั่นใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย มั่นใจในผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้โพลของพรรคดีขึ้น แข็งแรง เพราะฉะนั้นเบาใจแล้ว" นายอนุทิน ระบุ