นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทยและอดีตกกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า ประชานิยม ต้องมีขอบเขต ยังอีก 35 วันถึงจะเป็นวันเลือกตั้ง นโยบายหาเสียง และ "ของ" ต่าง ๆ ยังถูกปล่อยไม่หมด สิ่งดี คือประชาชน จะได้ข้อเสนอจากพรรคการเมือง ว่าจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ถูกใจประชาชนมากขึ้น โดย "ข้อเสนอ" ที่เป็นตัวเงิน ดูจะจูงใจได้มากที่สุด
ข้อเสนอทางตัวเงินที่ให้กับประชาชนถ้าเป็นเงินส่วนตัว นั่นคือการซื้อเสียงอย่างชัดเจน ถ้าก่อนหน้าเลือกตั้งคือ การซื้อเสียง หากหลังเลือกตั้ง คือ สัญญาว่าจะให้ แต่เมื่อ เลขาธิการ กกต. มาเปิดทาง ว่า ข้อเสนอที่ใช้เงินของรัฐ ถือเป็นนโยบาย ไม่ใช่ สัญญา ว่าจะให้ วันนี้ 700 , 1000, 3,000 , 10,000 บาท อีก 34 วันที่เหลือ เรายังมีโอกาสได้เห็น "นโยบาย" เอาเงินหลวง มาสัญญาว่าจะให้ โดยไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามที่ เลขา กกต. กรุยทางไว้อีกมากมาย
ประชานิยมต้องมีขอบเขต 1. ต้องดูความสามารถในการจ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ว่ามีเงินเท่าไร และถูกใช้ไปเท่าไร จะตัดรายการใด มาเพิ่มเป็นรายการใหม่ได้
2. ต้องมีวินัยการเงินการคลัง และไม่ขัดกับ กม.วินัยการเงินการคลังของรัฐ เช่น งบประมาณประจำปี ต้องมีงบลงทุน ต้อง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรวม และต้องไม่น้อยกว่าวงเงินที่ขาดดุลงบประมาณของปีนั้น ๆ 3. ต้องไม่กู้ จนเกินเพดานหนี้สาธารณะ ที่ปัจจุบันกำหนดไว้ ไม่เกินร้อยละ 70 ของ GDP ของประเทศ และต้องคิดต่อว่า ภาระการใช้หนี้คืนในอนาคต จะกระทบต่อการตั้งงบประมาณเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคตอย่างไร
ประชานิยม ใคร ๆ ก็อยากได้ ใครจะไม่ชอบบ้างถ้ามีคนเอาเงินมาใส่กระเป๋ารายเดือน ๆ ละ 3,000 บาท หรือ ให้เงินช็อปปิ้งปีใหม่ 10,000 บาท
วันนี้ เท่านี้ แต่อีก 34 วันที่เหลือของการหาเสียง นโยบายประดิษฐ์พิสดารที่เกทับบลัฟแหลก จะตามมาอีกแน่นอน กกต. เขาไฟเขียวแล้วนี่