นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พบปะพ่อค้าประชาชนในช่วงเช้า ที่ตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งขายสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นจุดศูนย์กลางในขนส่ง-กระจายสินค้า ทางการเกษตรไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆ ในจังหวัด
ต่อจากนั้น นายเศรษฐา ได้เดินทางไปที่สี่แยกรินคำ ซึ่งเป็นจุดวัดค่าฝุ่นที่สำคัญจุดหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ โดยนายเศรษฐาได้พูดคุยกับส.ส.ในพื้นที่ และนายสมชาย ทองคำรูณ กรรมการบริษัท green bus รองประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายก อบจ.เชียงใหม่ และนายสมโภช ลิ้มเล็งเลิศ รองประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ ถึงผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
นายเศรษฐา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ว่า เป็นปัญหาที่ต้องการผู้นำที่เอาใจใส่จริงจังในการแก้ไข ไม่ว่าการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเผาทั้งหลาย ทั้งนี้ผู้ประกอบการในประเทศ มีการไปติดต่อซื้อพันธุ์พืชมาจากประเทศใกล้เคียง ซึ่งกระตุ้นการผลิต แต่ไม่ได้สนใจปลายน้ำ ดังนั้นอาจต้องนำมาตรการภาษีมาเกี่ยวข้องด้วย
พร้อมยืนยันว่า ถ้าประชาชนให้ฉันทามติพรรคเพื่อไทยเข้าไปบริหารประเทศ ก็จะนำเรื่องฝุ่น PM 2.5 เข้ามาบริหารจัดการก่อนเป็นเรื่องแรก ไม่ใช่แค่จังหวัดเชียงใหม่อย่างเดียว แต่จะรวมกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาปราศรัยโจมตีว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล นายเศรษฐา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องฟังนายใหญ่ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงว่า เป็นความคิดของนายชัยวุฒิ อยากพูดอะไรก็พูดไปแล้วกัน วันนี้เรามีหน้าที่เผยแพร่นโยบาย ทำให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น และทำให้ปัญหาปากท้องหายไป เดินหน้าทำงานให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของอำนาจอธิปไตย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย มีแคนดิเดmนายกฯ 3 คน เชื่อว่าเรามี ส.ส.เก่งๆ จำนวนมากที่จะมาผลักดันนโยบาย กำกับดูแลการทำงานของฝ่ายบริหารให้ดีขึ้น
เมื่อถูกถามว่าจะลบภาพนอมินีอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า "ผมไม่เคยเป็นนอมินีให้ใครอยู่แล้ว ผมไม่ถูกครอบงำ แต่ผมถูกครอบงำโดยประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น" นายเศรษฐา ระบุ