นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า ได้มีการพิจารณาเรื่องการกำหนดคิวหาเสียง การขึ้นเวทีปราศรัยและการร่วมเวทีดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคไว้แล้ว โดยหลังเทศกาลสงกรานต์จะเริ่มเดินสาย เพราะหากอยู่ในช่วงประเพณีเทศกาลสงกรานต์อาจจะมีเหตุติดขัดหลายอย่าง
"ช่วงนี้คนเริ่มเดินทางกลับบ้าน ถ้าไปเดินตลาดก็เงียบ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ที่คนเดินทางกลับต่างจังหวัดกันหมดแล้ว" นายอนุชา กล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ รทสช. กล่าวถึงการจัดคิวลงพื้นที่หาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ว่า ทางพรรคจะจัดให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปทุกพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายหลักของพรรค ซึ่งผู้สมัครส.ส. ในพื้นที่ได้เสนอข้อมูลมาแล้ว ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ภาคใต้ ส่วนภาคอีสานและภาคเหนือจะลงพื้นที่ไปบางจังหวัด
ส่วนพรรครทสช. จะมีนโยบายอะไรใหม่ใหม่ออกมาเพิ่มเติมในโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เรื่องนโยบายไม่ควรจะมีมาก ซึ่งเราต้องดูแลประชาชนทุกสาขาอาชีพ สิ่งที่เราต่างจากพรรคอื่นคือ พรรครทสช. บอกวิธีการหาเงินเข้าประเทศอย่างเงิน 4 ล้านล้านบาทจะหาเงินมาอย่างไร รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา 27.5 ล้านคน เงินจะเข้ามา 2.3 ล้านล้านบาท ส่วนพล.อ. ประยุทธ์ จะไปร่วมเวทีดีเบตหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ยังไม่แน่นอน เพราะในช่วงโค้งสุดท้าย อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์
นายธนกร กล่าวอีกว่า นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำได้จริงและทำสำเร็จไปแล้วหลายนโยบาย และคิดว่าประชาชน เข้าใจในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ทำมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยออกนโยบายมา มีสิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ระยะทาง 4 กิโลเมตรหรือการใช้ระบบ ซึ่งตนฟังแล้วยังสับสน
"นโยบายของเพื่อไทยในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาทแจกทุกคน หมายความว่าเจ้าสัวซีพี เบียร์ช้างก็ได้ด้วย เป็นตรรกะที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทบทวนนโยบายเหล่านี้" นายธนกร กล่าว