สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงการเดินทางไปดูงานจัดการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักรของ กกต.ทั้ง 6 คนเป็นไปตามโครงการเตรียมการและตรวจติดตามการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในการเลือกตั้ง ส.สเป็นการทั่วไป ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจติดตามการเตรียมความพร้อม รับฟังสภาพปัญหา รวมทั้งการบริหารจัดการการเลือกตั้งในแต่ละประเทศ ซึ่งมีข้อจำกัดแตกต่างกันตามกฎหมายภายในของประเทศนั้นๆ ลักษณะภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรืออาจนำมาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายระเบียบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยก่อนดำเนินการทางสำนักงาน กกต.ได้หารือร่วมกันกับกระทรวงการต่างประเทศมาโดยตลอดถึงวิธีการที่จะทำให้การเลือกตั้งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อาศัยอยู่ต่างประเทศสามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ให้มากที่สุด
ต่อมากระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือเชิญ กกต.เดินทางไปเข้าร่วมโครงการเตรียมการและตรวจติดตามการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานทูตและสถานกงสุลในประเทศต่างๆ ซึ่ง กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการนำมาพัฒนาระบบการบริหารจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ในโอกาสต่อไป จึงได้พิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่กระทบกับงานตามแผนปฏิบัติการที่ได้กำหนดไว้แล้ว รวมถึงการเดินทางในห้วงเวลาที่จะไม่เป็นภาระในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานทูตหรือสถานกงสุลในประเทศต่างๆ จึงได้กำหนดให้มีการเดินทางในห้วงระยะเวลาวันที่ 4-24 เม.ย.66 โดยแต่ละเส้นทางไม่ได้เดินทางไปพร้อมกัน และแต่ละเส้นทางที่เดินทาง ประกอบด้วย กกต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นเพียง 4-5 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว กกต.ได้กำหนดแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพื่อให้สำนักงาน กกต.และหน่วยงานสนับสนุนดำเนินการไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะเดินทางไปต่างประเทศก็ยังมีการนัดประชุม กกต.ตามปกติผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหากมีเรื่องด่วนก็อาจนัดหมายประชุมเพิ่มเติมจากการประชุมตามปกติก็ได้
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ กกต.ในครั้งนี้ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคำร้องเรื่องการหาเสียงตามนโยบายให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท และการขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ข้อสังเกตดังกล่าวยังมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
โดยกรณีคำร้องนโยบายการหาเสียงการให้เงินทางดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการยื่นคำร้องว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องสำนักงาน กกต.ได้รายงานให้ กกต.ทราบเบื้องต้นแล้วและได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนการไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมไว้ก่อน จึงจะเสนอให้ กกต.พิจารณาต่อไป ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบระยะเวลาและขั้นตอนที่กำหนด ไม่อาจยกขึ้นพิจารณาได้ทันที ประกอบกับขณะนี้มีพรรคการเมืองรายงานเรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เพียง 6 พรรคการเมืองจากจำนวนพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 70 พรรคการเมือง หรือบางพรรคการเมืองยังอยู่ระหว่างการส่งเอกสารเพิ่มเติมจึงยังไม่สามารถพิจารณาได้
ส่วนการขยายระยะเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า กรณีเกิดปัญหาผู้ลงทะเบียนบางส่วนไม่อาจลงทะเบียนได้ในช่วงเวลา 21.00-24.00 น.ของวันที่ 9 เม.ย.66 เนื่องจากข้อจำกัดของระบบที่มีศักยภาพในการรองรับการเข้าใช้งานลงทะเบียนพร้อมกันเพียง 5,000 คนต่อวินาที หากสูงเกินกว่าจำนวนดังกล่าวจะทำให้ระบบล่าช้า สำนักงาน กกต.ได้รายงานให้ กกต.ทราบตั้งแต่เกิดเหตุและต่อเนื่องมาเป็นลำดับ พร้อมทั้งประสานงานกับสำนักบริหารการทะเบียนเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยได้ข้อสรุปว่าในช่วงเวลาดังกล่าวระบบสามารถบันทึกข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียนแต่แสดงผลว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จไว้ ซึ่งระบบสามารถดึงข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียนดังกล่าวมาจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้เกือบทั้งหมด สำนักงาน กกต.จึงเห็นว่าไม่จำต้องขยายเวลาลงทะเบียนออกไปและได้รายงานให้ กกต.ทราบแล้ว