นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 15 บึงกุ่ม ลงพื้นที่ช่วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 13 ลาดพร้าว หาเสียง โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ ต่างเข้าไปขอถ่ายภาพทั้งนายเศรษฐา น.ส.สกาวใจ เป็นที่ระลึก โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในพื้นที่กทม.ว่า เรามีความมั่นใจ แต่ผู้สมัครทุกคนและแคนดิเดตนายกฯของพรรคยังต้องลงพื้นที่เยอะๆ เพื่อสื่อสารนโยบายและตอบข้อสงสัยกับประชาชน เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคให้เข้าถึงประชาชน ส่วนเวลาที่เหลือก่อนการเลือกตั้งทางพรรคมีทีมดูเรื่องตัวเลขอยู่หลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะเน้นลงพื้นที่ที่สูสีหรือที่คะแนนตามอยู่ โดยเราต้องทำงานหนักบางวันอาจมี 4-5 เวที เราไม่กลัวงานหนัก
เมื่อถามว่าช่วงที่ผ่านมาประเมินว่าการสื่อสารนโยบายของพรรคตรงเป้ามากน้อยอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะทำดีขนาดไหน ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี นโยบายที่ดีของพรรคเพื่อไทยมีเยอะมากเราจะทยอยเผยแพร่ไปเรื่อยๆ โดยวันที่ 17 เม.ย. จะประชุมกับผู้สมัคร ส.ส.กทม.เพื่อขยายนโยบายต่อ เพื่อเน้นบางนโยบายที่บางพื้นที่อาจยังอธิบายไม่ชัดเจน ตรงนี้ถือเป็นการปรับแผน และคงไม่เน้นนโยบายอะไรพิเศษเพิ่มเติมเพียงนโบบายเดียวในพื้นที่กทม. เพราะทุกนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ พ.ร.บ.อากาศสะอาด การสมรสเท่าเทียม สิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพ และการแก้ปราบคอรัปชั่นที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การจัดดัชนีคอรัปชั่นของไทยตกต่ำลงอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องขจัดให้พ้นจากสังคมไทย
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาระบุการแจกเงิน ควรพุ่งเป้าไปสู่กลุ่มที่เขามีความเดือดร้อน ไม่ใช่จะหว่านไปทั่ว นายเศรษฐา ตอบว่า "ถ้าคิดว่าตลอดเวลาที่ท่านอยู่มา 8 ปี ประชาชนทุกกลุ่มไม่ได้เดือดร้อนไปทุกหัวระแหง ก็ขอให้กลับไปดูหน่อย พยายามได้ยินเสียงที่ไม่อยากได้ยินบ้าง ท่านจะได้เข้าใจถ่องแท้ถึงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยครอบคลุมทุกกลุ่มเพราะเรามั่นใจว่าเราคิดใหญ่ทำเป็น"
เมื่อถามถึง กรณีผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนักออกมาว่าคะแนนของพรรคก้าวไกล ตามพรรคเพื่อไทยมาแบบหายใจรดต้นคอแล้ว จะปรับเปลี่ยนกุลยุทธ์ที่ใช้หาเสียงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายเราชัดเจนอยู่แล้ว มั่นใจว่าครอบคลุมทั่วถึงและมีความหลากหลายผู้สมัครของพรรคทุกคนทุกเขต และแคนดิเดตนายกฯเราพร้อมที่จะลงพื้นที่ชี้แจงประชาชนต่อไป เมื่อถามว่านักวิชาการเสนอแนะให้พรรคเพื่อไทยประกาศจุดยืนให้ชัดเจนเหมือนพรรคก้าวไกลที่บอกไม่เอาฝ่ายตรงข้าม นายเศรษฐา กล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามของพรรคเพื่อไทยคือความยากจน ความไม่เท่าเทียม และความไม่เสมอภาคในสังคมไทย เพราะฉะนั้นเราจะเดินหน้าให้ได้คะแนนเสียงสูงสุดแล้วค่อยว่ากันจับมือใครไม่จับมือใคร
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล กลัวว่าจะเกิดการทำรัฐประหารอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการรัฐประหาร ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ซึ่งพรรคเพื่อไทยยึดหลักนิติธรรม ไม่คอร์รัปชั่น และนำเสนอโนบายเพื่อประชาชนจริงๆ เมื่อถามว่าหากเป็นรัฐบาลจะทำประชานิยมต่อเนื่องหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่พรรคยึดโยงประชาชน หากยังเดือดร้อนเราก็จะเดินหน้าต่อ เราจะสร้างความมั่นคงทั้งด้านการเงิน และการคลัง ให้กับประชาชน และประเทศ
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าในบางพื้นที่ พรรคเพื่อไทยเริ่มมีการแจกเงินซื้อเสียง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีอยู่แล้ว
จากนั้น นายเศรษฐา และเดินทางไปยัง ตลาดหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อช่วย นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัครส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 14 บางกะปิ หาเสียง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่เช่นเดียวกัน