นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า คณะทำงานจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย ได้เสนอแผนปราศรัยหาเสียงไปยังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค โดยมีการเสนอให้เริ่มต้นที่ภาคเหนือ คือ จ.พิษณุโลก และเชียงใหม่ ซึ่งจะเริ่มในสุดสัปดาห์นี้
จากนั้นเป็นภาคอีสาน ต่อด้วยภาคกลาง และภาคใต้ โดยภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ตนดูแลพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งต้องมีการปรับแผนหาเสียง โดยได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการภาคว่าจะมีการปรับแผนหาเสียงก่อนการเลือกตั้งประมาณ 10 วัน ก่อนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
ส่วนผลโพลที่ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นลำดับที่ 3 นั้น นายธนกร กล่าวว่า การปราศรัยที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมากระแสดีมาก และความนิยมของประชาชนยังดีต่อเนื่อง ขณะที่ภาคอื่นๆ ค่อยๆ ดีขึ้น มั่นใจว่าประชาชนยังให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์ และผู้สมัครของพรรค รทสช. ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
นายธนกร กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ที่มีนักวิชาการและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหลายคน เห็นว่านโยบายนี้จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ซึ่งวันนี้มีข้อมูลรอบด้านแล้ว และเข้าใจว่าพรรคที่ทำนโยบายเหล่านี้ คงจะต้องไปทบทวน
"ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว นโยบายนี้ไปไม่ได้ หรือถึงจะไปต่อ ประชาชนก็คงไม่เอาด้วย ผมคิดว่านโยบายดังกล่าว ต้องทบทวน ผมไม่ได้ก้าวล่วงพรรคท่าน แต่ท่านก็พูดถึงนโยบายพรรคผมอยู่ตลอดเวลา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจง" นายธนกร กล่าว
ส่วนการยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่มีการออกมาดีเบตกันในช่วงนี้ นายธนกร กล่าวว่า การเกณท์ทหารยังมีความจำเป็น แต่จะปรับสัดส่วนอย่างไร เพราะเชื่อว่าคนที่อยากเป็นยังมีอยู่มาก ที่ผ่านมา ทางกองทัพก็มีความพยายามจะปรับสมดุลต่างๆ คนที่ผ่านการเกณฑ์ทหารมาต่างก็มีระเบียบวินัย ไม่ได้เสียหาย ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น และวันนี้สวัสดิการต่างๆ ก็มีการปรับขึ้นแล้ว ดังนั้นตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะปรับอย่างไรให้สมดุล ตนก็ไม่ได้สุดขั้ว และเชื่อว่ากองทัพเองก็มีการปรับในเรื่องดังกล่าว