รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า ขณะนี้พรรคการเมืองส่งข้อมูลรายละเอียดชี้แจงนโยบายหาเสียงที่มีการใช้จ่ายเงินตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มายังกกต.รวม 61 พรรคการเมืองแล้ว
โดยวานนี้มีพรรคการเมืองนำส่งรวม 58 พรรค และในช่วงเช้าวันนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) และพรรคไทยก้าวหน้า ได้รายงานมาเพิ่มเติม โดยยังเหลืออีก 9 พรรคการเมืองที่อาจดำเนินการส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งทางสำนักงานฯจะยึดการประทับตราไปรษณีย์เป็นหลักพิจารณาว่าได้มีการดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่
สำหรับ 9 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคความหวังใหม่ พรรคเพื่อชาติไทย พรรคแผ่นดินธรรม พรรคกรีน พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคชาติรุ่งเรือง พรรครักษ์ธรรม พรรคพลังไทยรักชาติ และพรรคไทยธรรม
*จี้กกต.ตรวจสอบวิเคราะห์นโยบายหาเสียง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต. กล่าวว่า ในการประชุมของ กกต. วันที่ 25 เม.ย.นี้กกต.จะต้องนำรายชื่อพรรคการเมืองที่ไม่ส่งรายละเอียดต่างๆ มาเข้าสู่ที่ประชุม และมีมติในการปรับ 500,000 บาทตามกฎหมาย
ส่วนที่ กกต.จะนำข้อมูลทั้งหมดเปิดเผยในเว็บไซต์ของ กกต.วันที่ 21 เม.ย. มองว่าเป็นการผลักภาระไปยังประชาชนที่จะให้เป็นฝ่ายตรวจสอบเอง อยากเรียกร้องว่า กกต.เองควรต้องวิเคราะห์ว่านโยบายอะไรที่เข้าข่ายของการหลอกลวง เพราะกกต.มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม มาตรา 73(5) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ระบุชัดเจนว่า ถ้ามีการหาเสียงโดยการหลอกลวงให้สำคัญผิดในนโยบายก็ถือว่าเป็นความผิด ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้อง เพราะเหตุของการทำผิดนั้นอาจจะเป็นความปรากฏต่อ กกต.เองได้
ดังนั้นเมื่อ 70 พรรคชี้แจงมายัง กกต.แล้วถือเป็นความปรากฏ กกต.สามารถที่จะวิเคราะห์ได้ว่านโยบายใดเป็นนโยบายที่หลอกลวง และต้องมีการตักเตือน หรือยกเลิกไม่ให้ใช้นโยบายดังกล่าวต่อสาธารณะ ซึ่งถ้ากกต.ไม่ปฏิบัติก็ถือว่า กกต.ละเว้นเช่นเดียวกัน