ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยข้อมูลการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงให้แก่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เนื่องจากเห็นว่าการไต่สวนของ ป.ป.ช.ได้สิ้นสุดและมีมติไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว
"พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทั้งสามรายการตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมายที่ สค 333/2562 แก่ผู้ฟ้องคดี ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา" คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ระบุ
คดีนี้ ประธาน คปต.ได้ยื่นฟ้อง สำนักงาน ป.ป.ช.และ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีกล่าวหา พล.อ.ประวิตรฯ
ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้สำนักงาน ป.ป.ช.และคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร 3 รายการ คือ 1.รายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2.ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว และ 3.รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในเรื่องดังกล่าว เฉพาะความเห็นของเลขาธิการ ป.ป.ช.ที่เสนอประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้กับประธาน คปต. แต่ทั้งสองฝ่ายได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด
กรณีการกล่าวหา พล.อ.ประวิตร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้นมีมูลเหตุเริ่มต้นจากการถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า แล้วมีผู้สังเกตุเห็นนาฬิกาข้อมือของ พล.อ.ประวิตร ขณะยกมือกันแสงแดดในภาพถ่ายจึงมีการสืบค้นขยายผล โดยมีข้อสงสัยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน
โดยที่ทางสำนักงานป.ป.ช. เคยมีมติเอกฉันท์กรณีแหวนเพชร และมติ 5:3 ประเด็นนาฬิกาหรู ไม่มีมูลเพียงพอให้เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ให้คดียุติไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ