นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคยังไม่มีการพิจารณาเรื่องจัดตั้งรัฐบาลจนกว่าจะทราบผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึง ขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อทาบทามใคร และไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคการเมืองใด จึงยังไม่มีการพูดถึงการจับขั้วกับพรรคการเมืองใดๆ หลังการเลือกตั้งทั้งสิ้น ฉะนั้นความคิดเห็นต่างๆ ที่บอกว่ามีขั้วการเมือง สิ่งเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น วันนี้พรรคโฟกัสเรื่องการเลือกตั้ง เพื่อทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและสนับสนุนพรรคให้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร เรามุ่งเน้นให้ผู้สมัครทุกคนได้รับความเชื่อมั่นไว้วางใจให้เข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชน โดยเฉพาะช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง
เมื่อทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการหรือมีแนวโน้มที่ดี พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นอันดับ 1 ให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน หากประสบปัญหาอุปสรรคจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยจึงจะคิดเรื่องความร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่นๆ ตามลำดับ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
"ผมขอยืนยันจุดยืนตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องถูกเสนอชื่อโดยพรรคการเมือง เราถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย หากประชาชนลงคะแนนให้พรรคนั้นในส่วนบัญชีรายชื่อก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ถ้านายกฯมาจากเส้นทางอื่น เช่น รัฐธรรมนูญมาตรา 272 เสนอชื่อนายกฯ ที่ไม่อยู่ในแคนดิเดตพรรคการเมือง หรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เราจะไม่สนับสนุน เพราะพรรคเคารพการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้นนายกฯที่พรรคจะสนับสนุนต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง เราไม่เอาคนนอกมาเป็นนายกฯแน่นอน" นายอนุทิน กล่าว
นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองที่เริ่มมีกระแสลักษณะนี้ เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายกับประเทศ ฉะนั้นต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรมไม่มีตัวช่วยให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ขอให้ประชาชนมั่นใจและออกมาใช้สิทธิให้เต็มที่ ประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่กลุ่มไหนมาตัดสินใจแทนประชาชน การยึดอำนาจไม่ใช่การแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง หากท่านใดประสงค์รับใช้บ้านเมืองต้องผ่านกระบวนการประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน
"ที่ผ่านมาผู้ยึดอำนาจจะไม่ลงมาแข่งขันในระบอบ แต่ในเจเนอเรชั่นของผม ผู้ยึดอำนาจได้เห็นแล้วว่าต้องผ่านกระบวนการประชาธิปไตย นี่คือคำตอบว่าจากนี้ประเทศไทยควรเดินหน้าต่อไปด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ให้สิ่งอื่นที่นอกระบบเข้ามาอ้างว่าจะแก้ปัญหาให้บ้านเมือง นอกจากประชาชน" นายอนุทิน กล่าว
หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังมั่นใจเต็มที่ว่าเป้าหมายต่างๆ จะประสบความสำเร็จด้วยความขยันของผู้สมัคร เราให้การสนับสนุนผู้สมัครของเราทุกรูปแบบ ส่วนข้อกังวลในการโจมตีนโยบายต่างๆ ของพรรค เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่บอกว่ารับเงินใต้โต๊ะ วันนี้คำพิพากษาศาลต่างๆ ทุกคดีศาลพิจารณาออกมาแล้ว สรุปได้ว่าการดำเนินการทุกอย่างของโครงการนี้เป็นไปถูกต้อง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ดำเนินการถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นธรรม ถือว่าคำพิพากษาของระบบยุติธรรมพิสูจน์ชัดเจนแล้ว เราจึงไม่กังวลอะไรอีกต่อไป
สำหรับสถานะของนายศักดิ์สยามได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง เราไม่แสดงความไม่เคารพ ศาลสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตาม และพร้อมชี้แจง เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นบุคคลสาธารณะ หากศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เราก็น้อมรับ และเตรียมเอกสารชี้แจง แต่หากข้อกล่าวหาเหล่านี้ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมติก็ออกมาชัดเจนว่าได้รับความไว้วางใจจาก ส.ส.อย่างท่วมท้น หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรค่อยให้นายศักดิ์สยามชี้แจง ส่วนการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.คมนาคม ก็ได้มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคเต็มเวลาถือว่าเป็นประโยชน์ต่อพรรค
หัวหน้าพรรค ภท.ยังถึงกรณีคลิปซื้อเสียงที่ จ.หนองคาย ว่า คนในคลิปไม่ใช่ตัวแทนพรรค พรรคมีจดหมายแจ้งไปยังผู้สมัครทุกคนว่าพรรครังเกียจ และไม่สนับสนุนการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ใครทำแบบนั้นถือว่าไม่หวังดีกับพรรค เชื่อไม่มีใครทำเลวๆ แบบนั้น คลิปทำขึ้นมาเองก็ได้ ช่วงนี้พรรคถูกรังแกด้อยค่า แต่เราก็มีความหนักแน่น ผู้สมัครล้วนได้รับการปลูกฝังที่ดีจากพรรคให้ปฏิบัตืตามกฎหมาย จะไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นแน่นอน โดยผู้สมัครของพรรคที่ถูกกล่าวหาเรื่องนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว