นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีได้ประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้น เป็นความตั้งใจของพรรคที่ตั้งใจจะเดินหน้าตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อให้แลนด์สไลด์ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วย เราคงต่างคนต่างเดินไป และผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนก็ไม่มีใครท้วงติงอะไร
การที่ตนได้ประกาศไปเช่นนั้นเพราะมีสื่อสอบถามกันมาโดยตลอด ไม่ได้ย้อนแย้งหรือช้าเกินไป ตนบอกว่าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวมาโดยตลอด เมื่อมีการจัดตั้งแล้วเราก็จะไปร่วมกับพรรคที่มีจุดยืนเดียวกัน ณ วันนี้เราเผยแพร่นโยบายให้ประชาชนทราบโดยเต็มที่ เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และเป็นความตั้งใจที่จะพูดความจริงว่าความตั้งใจของเราคืออะไร และพี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน เราแข่งกันที่นโยบาย เราแข่งกันที่ล้มล้างความยากจน ความเสมอภาคของพี่น้องประชาชน
ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุว่า หาก พท.ไม่จับมือกับ พปชร.ก็ไม่เป็นไรนั้น เป็นจุดยืนและนโยบายของท่าน เราสู้กันที่นโยบาย และสู้กันว่าใครจะล้มล้างความยากจนของประชาชนได้ดีกว่ากัน
สำหรับการลงหาเสียงในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ที่เป็นฐานเสียงของพรรคพลังประชารัฐนั้น เพราะเป็นรัฐบาลมี 4 ปีแล้ว ทำไมประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ ตนคิดว่าประชาชนมีความต้องการที่ชัดเจนจากการได้พบปะมา เมื่อไม่มีความสุขก็ถึงเวลาที่เข้าคูหาและกาพรรคที่ไม่ใช่เป็นพรรครัฐบาล และตนก็หวังว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปขออนุญาตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้งบกลางเพื่อนำมาแก้ปัญหาเรื่องค่าไฟ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องความสง่างามในสังคมก็ต้องมีอยู่บ้าง ประชาชนเดือดร้อนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพลังงานมานานแล้ว เป็นรัฐบาลมานานแล้ว ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนตัดสินใจกันได้ว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม อย่างที่ตนเคยเรียนว่าไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหรือการทำงานของพรรคอื่น เรามีวิธีการทำงานของเรา เราเดินไปข้างหน้า ส่วนตัวไม่ได้ขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จุดยืนของเราคือการขจัดความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม ส่วนจะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน