ชมรม สสร.50 ค้านแก้รธน.หวั่นเจตนาซ่อนเร้นเป็นต้นเหตุทำบ้านเมืองแตกแยก

          นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 50 ระบุ ชมรม ส.ส.ร.50 มีมติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขบางมาตราหรือแก้ไขทั้งฉบับ โดยมองว่ารัฐบาลมีเจตนาสำคัญที่จะแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 309 เพื่อให้การกระทำของพรรคการเมืองหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมทั้งกรณีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและกรณีการยุบพรรคการเมืองบางพรรค รวมถึงยกเลิกกระบวนการทำหน้าที่ตรวจสอบขององค์กรอิสระ
          "การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ยังคงมีเจตนาซ่อนเร้นอย่างชัดเจน เป็นการไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรมและความชอบธรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตน ซึ่งส.ส.ร.จะเดินสายชี้แจงต่อประชาชนทั่วประเทศต่อไป" นายเสรี ระบุ
          นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีการรวมต่อเพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลที่แฝงไว้ด้วยการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งจะนำไปสู่ความเห็นที่แตกแยกของประชาชนในชาติและเพิ่มจำนวนมากขึ้น อาจจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองได้ เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้นจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ
          พร้อมกันนี้ชมรม ส.ส.ร.50 ได้เรียกร้องให้ ส.ส.ฝ่ายที่กำลังจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญหยุดหรือชะลอการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัวในช่วงเวลานี้ จนกว่าจะล่วงพ้นการพิจารณาคดีที่กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมขณะนี้ 
          ด้านนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ส.ร.50 กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตนเองโดยอ้างประเทศชาติและประชาธิปไตยบังหน้า ถือเป็นการตัดตอนกระบวนการยุติธรรมทั้งที่ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยและเป็นการตัดตอนการเอาผิดการทุจริต การลดอายุของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบรัฐบาลได้ยากขึ้น ทำให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจเผด็จการเหมือนกับสมัยฮิตเลอร์