นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีปรากฏเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 11 ซึ่งออกโดยเอกอัคราชทูต ณ กรุงลอนดอน สำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้วเกิดความผิดพลาด โดยภาพผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยสลับกับพรรคการเมืองอื่นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และอาจนำมาสู่การลงคะแนนผิดได้ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ทำการตรวจสอบและชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาดต่อกรณีดังกล่าว และจะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร เพราะความผิดพลาดในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีการแก้ไขเอกสารดังกล่าว แต่ประชาชนที่รับเอกสารไปก่อนยังเกิดความสับสนอยู่ดี
กรณีดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความสะเพร่าในการดำเนินงานของ กกต. และทำให้เกิดความกังวลว่า นอกเหนือจากความผิดพลาดของเอกสารฉบับนี้ จะมีเอกสารฉบับอื่นในประเทศใดอีกหรือไม่ที่มีการนำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จนอาจเกิดความเสียหายต่อการลงคะแนนและบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนอีก จึงขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาและตรวจสอบการทำงานหลังจากนี้เป็นต้นไป หากเกิดเหตุพิรุธหรือข้อกังวลใดๆ สามารถประสานส่งเรื่องมาที่พรรคเพื่อไทยได้โดยทันที
"พรรคเพื่อไทยขอให้ กกต.ใช้ความรอบคอบในการดำเนินการต่างๆให้มากขึ้น อย่าให้ถูกวิจารณ์ได้ว่ามีเจตนาบิดเบือนเสียงของประชาชน" นายชนินทร์ กล่าว
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ยอมรับกรณีประกาศที่ออกโดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 11 สลับรูปกันนั้เป็นความผิดพลาดที่ได้รับรายงานและได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
"เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษก็ต้องยอมรับว่ามีความผิดพลาด แต่เราได้ทราบเรื่องและแก้ไขโดยส่งฉบับที่ถูกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว และได้ตรวจสอบที่สถานทูตอื่น ซึ่งที่ประเทศอังกฤษจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเยอะแล้ว พอได้รับเอกสารแล้วท่านก็ส่งเลย แต่ที่ประเทศอื่นฉบับที่เราแก้ไขให้ถูกต้องได้ส่งไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่ได้ส่งฉบับที่ผิดพลาดรอบแรกไป และเท่าที่ได้ตรวจสอบกับทางสถานทูตและสถานกงสุล มีแค่ที่อังกฤษที่ผิดพลาด" นายแสวง กล่าว
ส่วนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศซูดานนั้น นายแสวง กล่าวว่า เรื่องเหตุที่ซูดานน่าจะเข้าตามเกณฑ์กฎหมาย และให้ถือว่าผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชฯไว้นั้นไม่เป็นผู้เสียสิทธิที่แจ้งเหตุว่าไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดยกฎหมายได้เขียนในเรื่องลักษณะนี้ที่จะเกิดขึ้นคือเมื่อมีเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำเป็นอื่นๆก็สามารถกำหนดวันลงคะแนนใหม่ได้ 2 ครั้ง ถ้ายังเกิดเหตุอยู่ครั้งที่ 3 ก็ให้งดการลงคะแนนได้ เรื่องนี้ต้องดูช่องทางของกฎหมายก่อน แต่โดยเบื้องต้นทุกคนที่ได้ลงทะเบียนที่ซูดานถือว่าเขาได้เป็นผู้แจ้งเหตุไม่สามารถไปใช้สิทธิได้แล้ว เมื่อกฎหมายกำหนดไว้เช่นนี้ในเบื้องต้นเขาจะได้ใช่เป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิเพียงแต่ว่าเขาจะสามารถใช้สิทธิได้หรือไม่ต้องไปดูช่องทางกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง
และความเป็นไปได้ที่จะให้ผู้ที่จะอพยพได้เลือกตั้งก่อนกลับไทย แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วยว่าจะสามารถจัดให้เขาลงคะแนนได้หรือไม่ เรื่องนี้เรากำลังศึกษาอยู่ ซึ่งมีจำนวนผู้ลงทะเบียน 94 คนเท่านั้นเอง ถ้าจะจัดให้เลือกตั้งได้เรากำลังประสานกับกรมการกงสุลในเรื่องการอพยพต่างๆ