นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมด้วยทีมกฎหมาย เดินทางมายื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนทำให้ค่าไฟฟ้าแพง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
โดยระบุว่า จากการติดตามตรวจสอบข้อมูลมาระยะหนึ่ง พบว่า การขึ้นค่าไฟฟ้า ไม่ได้มาจากความต้องการในการบริโภคไฟฟ้ามากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารนโยบายด้านพลังงานของผู้มีอำนาจ และพฤติการณ์ที่ส่อว่าจะเอื้อประโยชน์ ให้กับเอกชนหลายราย ในการอนุมัติสัญญาสัมปทานและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เกินความต้องการของประเทศ
ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย จึงได้ยื่นฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2540 และพ.ร.บ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมาย ในการกำหนดมาตรการเพื่อให้เกิดความมั่นคงและเชื่อถือเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยต้องกำหนดปริมาณให้สอดคล้อง และใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศในแต่ละช่วงเวลา
พรรคไทยสร้างไทย มองว่า การกระทำของผู้ถูกฟ้อง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ของ กฟผ. ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่โจทก์ รัฐ และประชาชน หรือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือรัฐ และประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญาให้ได้รับประโยชน์จากค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) แล้วผลักภาระค่าใช้จ่ายให้โจทก์ และประชาชน หรือรัฐเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157
ทั้งนี้ ศาลได้รับคำร้องไว้ พร้อมนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในขั้นตรวจคำฟ้อง ในวันที่ 8 พ.ค. 66