พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการ พปชร. ร่วมเปิดตัวนายคณิศ แสงสุพรรณ อดีตประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และเข้ามาอยู่ในทีมเศรษฐกิจ โดยนายคณิศ จะเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในภาคใต้ ทั้งในฝั่งอันดามัน และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้มีความเจริญทัดเทียมอารยะประเทศ
พร้อมระบุว่า นายคณิศ ตั้งใจมาทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐ แต่จะทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงฝากประชาชน ถ้าอยากให้ภาคใต้เจริญ ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ
นายคณิศ กล่าวว่า ได้ลาออกประธานที่ปรึกษาอีอีซี และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ส่วนเหตุผลที่มาช่วยงาน เพราะต้องการผลักดันความฝันของพล.อ.ประวิตร ที่จะสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่ ซึ่งตนทำงานให้กับอีอีซีมา 5 ปี และเชื่อว่าอีอีซีเดินหน้าไปได้แล้ว มีงบประมาณที่อนุมัติไว้ 2 ล้านล้านบาท เม็ดเงินลงไปแล้ว 60% คาดว่า เศรษฐกิจอีอีซีจะขยายตัวปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7%
"เชื่อว่า อีอีซีจะเป็นพลังเศรษฐกิจ ผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้า และขอให้คณะทำงานที่จะมาสานต่อเรื่องอีอีซี มีความซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ทำตามแผนงาน" นายคณิศ กล่าว
พร้อมระบุว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนรับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซี ซึ่งตลอด 4 ปีที่ทำงานมาร่วมกันมา มีโครงการเรื่องน้ำที่ทำไปแล้ว 20 โครงการ ส่งผลให้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่อีอีซี และตลอดการทำงานร่วมกันมากับพล.อ.ประวิตร เป็นคนรับฟังข้อมูล กล้าตัดสินใจ จึงได้ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ
นายคณิศ กล่าวต่อว่า หลายเดือนก่อน พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับ นายอันวาร์ อิมราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่กรุงเทพฯ ได้มีการหารือกันเรื่องชายแดนภาคใต้ของไทย และภาคเหนือของมาเลเซีย ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้ขอให้ตนช่วยพิจารณาว่า จะสามารถนำเศรษฐกิจเข้าไปพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างไรบ้าง เมื่อพิจารณาเห็นว่ามาเลเซียเอาจริงกับการพัฒนาตามแนวชายแดน และอยากให้พล.อ.ประวิตร ช่วยในเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งในภาคใต้ให้ได้
ทั้งนี้ ตนได้เสนอโครงการเขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ มุ่งหวังให้เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ โดยจะมีการจัดทำแผนเพื่อเชื่อมโยงเขตพิเศษเศรษฐกิจเข้าไว้ด้วยกัน ในฝั่งไทย โครงการดังกล่าวจะเชื่อมต่อ 5 จังหวัด คือ สงขลา ยะลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส รวมเป็นเขตพัฒนาพิเศษแบบอีอีซี โดยมีอย่างน้อย 6 โครงการเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ เช่น
1) ยกระดับรายได้เกษตรกร ด้วยการแปรรูปพืชเกษตรให้มีคุณภาพ อาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่มุ่งสู่ตลาดโลก
2) พัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งฝั่งอ่าวไทย ทำตากใบโมเดล ฝั่งอันดามัน ทำสตูลโมเดล ผ่านโครงข่ายเรือและเครื่องบินท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้สู่พื้นที่
3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น Motorway และ Landbridge เชื่อมทั้ง 2 ฝั่งทะเล
4) สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตลอดข้างทางของ Motorway เช่น ศูนย์กลางอาหารระดับนานาชาติ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ยา โลจิสติกส์
5) ขยายความร่วมมือด้านพลังงานระหว่าง 2 ประเทศ
6) ใช้ธนาคารอิสลามเป็นธนาคารหลักในการให้สินเชื่อกับประชาชน และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้
นายคณิศ กล่าวว่า โครงการเขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ มุ่งหวังจะทำให้พี่น้อง 8 ล้านคนใน 14 จังหวัดภาคใต้ กลับมามั่งคั่ง หากเลือก พปชร. นอกจากจะก้าวข้ามความขัดแย้งแล้ว จะก้าวพ้นความยากจน เขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ที่ พปชร.นำเสนอ จะช่วยทำให้ลูกหลานชาวใต้เติบโตในพื้นที่ มีงาน มีรายได้สูง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ได้ให้การสนับสนุน และร่วมผลักดันนโยบายนี้