นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจกรรมและการปราศรัยหาเสียง กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัลว่า ตอนนี้หลายฝ่ายได้ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีประเด็นทางข้อกฎหมายอีกหลายข้อ ซึ่งสอดคล้องกับที่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุว่า เงินดิจิทัลภาคประชาชนยังอยู่ในช่วงทดลองศึกษา โดยไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบ ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรค ให้ความเห็นว่า นโยบายนี้จะเข้าข่าย พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่ง ธปท.เป็นองค์เดียวที่มีอำนาจในการออกเงินตราได้
นอกจากนี้เหรียญดิจิทัลจะออกแบบให้เป็นบล็อกเชน โดยมีการเก็บข้อมูลในการใช้จ่ายของผู้ใช้จำนวนมากถึง 54 ล้านคน โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล และถ้าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริงจะเป็นอันตรายต่อประชาชน
นายวิรัช กล่าวว่า กกต.ต้องเร่งรับเรื่องร้องเรียน เพราะเงินดิจิทัลที่พรรคเพื่อไทยจะแจกนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 มาตรา 6 มาตรา 9 และมีโทษตามมาตรา 35 หรือไม่ โดย กกต.ต้องเร่งรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวโดยด่วนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
การประกาศนโยบายดังกล่าวควรคำนึงถึงความเป็นไปได้ในข้อกฎหมายด้วย เพราะเงินดิจิทัลจะถูกนำไปตีความไว้ใน พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งจะเป็นอุปสรรคและเป็นประเด็นที่ควรจะต้องมีการปรึกษาเพื่อจะหาทางออกให้เรียบร้อยก่อน และยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่าจะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 (5) ฐานเป็นผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดด้วยวิธีการหลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหรือไม่อีกด้วย
ส่วนกรณีมีการเผยแพร่คลิปกล่าวหา พปชร.แจกเงินและสิ่งของให้แก่ผู้ที่มาฟังปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา นายวิรัช กล่าวว่า ได้แจ้งให้ผู้สมัคร ส.ส.ไปดำเนินการแจ้งความแล้ว ก่อนที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกมา 1 วัน เพราะทราบว่ามีการจัดฉากในการถ่ายคลิป มีการจัดฉากในการเรียกคนมา มีการปิดหน้าปิดตา และมีการนำโบรชัวร์มาเหน็บคู่กับเงิน 100 บาท
"ถือเป็นการสร้างฉากชัดเจน และต้องการให้คนถ่ายรูปเพื่อให้เห็นเงินอย่างชัดเจน อีกทั้งมีการส่งคลิปไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากการแจ้งความ ได้ให้ผู้สมัครไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ทาง กกต.พิจารณา ซึ่งทาง กกต.แจ้งว่า มีเรื่องนี้อยู่แล้ว เราเพียงแต่ไปให้การกับ กกต. หลังจากนี้ก็ต้องรอทาง กกต.ว่าจะพิจารณาอย่างไร" นายวิรัช กล่าว