ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับเครือข่ายการเมืองสะอาด เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินหรือจัดสวัสดิการของพรรคการเมืองที่นำมาใช้หาเสียงเลือกตั้ง พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 66.72% ไม่ทราบ และ/หรือ ไม่เคยทดลองคำนวณวงเงินที่จะต้องนำมาใช้ ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียง 14.81% ที่ทราบ และ/หรือ เคยคำนวณรายละเอียดไว้ ส่วนอีก 11.75% ไม่ทราบและไม่สนใจว่าต้องใช้วงเงินเท่าไหร่สำหรับแต่ละนโยบายแต่ละพรรค และ 6.72% ระบุเป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะต้องคำนวณเงินและแจ้งให้ประชาชนทราบ
ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาจัดทำตามนโยบายแจกเงินหรือจัดสวัสดิการต่างๆ ของแต่ละพรรคการเมืองนั้น กลุ่มตัวอย่าง 49.62% ระบุว่าจัดเก็บภาษีประชาชน/บริษัท/ห้างร้านต่างๆ เพิ่มขึ้น รองลงมา 27.86% ระบุว่าตัดทอนงบประมาณที่ไม่จำเป็นจากกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ตามด้วย 25.73% ระบุว่า กู้เงินจากต่างประเทศ, 21.15% ระบุว่าใช้เงินคงคลังและเงินสำรองระหว่างประเทศของไทย, 18.55% ระบุว่ากวาดล้างการทุจริตเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอที่จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้, 14.27% ระบุว่ากู้เงินจากในประเทศ และ 3.82% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหากการดำเนินตามนโยบายแจกเงินหรือจัดสวัสดิการต่างๆ ของแต่ละพรรคการเมืองก่อให้เกิดปัญหาทางการคลังและหนี้สาธารณะ กลุ่มตัวอย่าง 44.35% ระบุว่า พรรคการเมืองที่คิดและดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้ รองลงมา 41.68% ระบุว่า นักการเมืองที่คิดและดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้ ตามด้วย 39.47% ระบุว่า ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในคราวนี้, 14.43% ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ไม่หาทางป้องกัน, 9.62% ระบุว่า ข้าราชการประจำที่ทำงานรับใช้พรรคการเมืองในการดำเนินนโยบายเหล่านี้, 6.34% ระบุว่า นักวิชาการที่ไม่ออกมาตักเตือนให้สติสังคม, 6.26% เชื่อว่าปัญหาทางการคลังและหนี้สาธารณะจะไม่เกิดขึ้น และ 1.60% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ทั้งนี้ นิด้าโพลได้สำรวจความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง ด้วยวิธีการโทรสัมภาษณ์จากการสุ่มตัวอย่างในบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลักช่วงวันที่ 20-24 เม.ย.ที่ผ่านมา