นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ขอความร่วมมือให้ กระทรวงมหาดไทย อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเลือกตั้งแก่กลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือ ทุพพลภาพ ให้ออกไปใช้สิทธิตามหน้าที่พลเมือง อันเป็นการส่งเสริมสร้างสังคมประชาธิปไตยให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกถึงสิทธิที่ทุกคนพึงมี
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิเลือกตั้งโดยเท่าเทียมกันอย่างเสมอภาค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนกลุ่มเปราะบาง อันได้แก่ ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ ต้องสามารถไปใช้สิทธิการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ได้เหมือนกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของกลไกกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ จะต้องช่วยสนับสนุนด้านการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนกลุ่มดังกล่าวตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ
"กระทรวงมหาดไทย จึงได้มีหนังสือสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ อำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ หรือทุพพลภาพและผู้สูงอายุ ที่จะเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยจะจัดให้มีรถส่วนกลางรับส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นคนพิการ ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ไป - กลับ) จากสถานที่เลือกตั้ง โดยถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และระเบียบของทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเคร่งครัด" นายสุทธิพงษ์ กล่าว
พร้อมได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดได้ประสาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พิจารณาจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 และการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขตเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 พร้อมทั้งสนับสนุนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยในพื้นที่ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้ง เพื่อรณรงค์ลดบัตรเสียโดยสาธิตการทำเครื่องหมายกากบาทบนบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ อปท.จะต้องพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็น ความคุ้มค่า และความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสถานะทางการคลังประกอบด้วย และกำชับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการดำเนินการดังกล่าว จะต้องไม่กระทำการใด ๆ เพื่อเป็นการจูงใจหรือใช้ตำแหน่งหน้าที่ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด