นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวปราศรัยหาเสียงบริเวณลานปูดำ จ.กระบี่ โดยเสนอให้มีการตั้งมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อสร้างคนวิชาชีพให้มีคุณภาพและจำนวนมากพอ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม สร้างเศรษฐกิจ เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องใหญ่โตแต่ให้กระจายครบทุกภูมิภาค เพื่อไม่ให้เด็กในแต่ละพื้นที่เสียโอกาสเข้าถึงการศึกษาระดับวิชาชีพ
"ประเทศเสียหาย พื้นที่ก็เสียโอกาส วันนี้จังหวัดฝั่งอันดามันยังไม่มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนครบสาขาเลย ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นวิศวกร เป็นหมอ นักบัญชี หรือแม้แต่นักกฎหมาย ต้องไปเรียนไกลบ้านที่กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองต่างจังหวัด" นายสุชัชวีร์ กล่าว
พร้อมขอคะแนนเสียงให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ยกจังหวัดในบัตรสีม่วง และลงคะแนนให้พรรคในบัตรสีเขียว เพื่อมาช่วยกันผลักดันให้จังหวัดมีมหาวิยาลัยเป็นของตัวเอง เพราะจังหวัดกระบี่มีรายได้จากเศรษฐกิจสูงมาก การจัดตั้งมหาวิทยาลัยอันดามันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สอดรับกับนโยบายเรียนปริญญาตรีฟรี ไม่มีค่าหน่วยกิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เรียนจบปริญญาตรี ขณะเรียนก็มีงานทำกับภาคธุรกิจ และภาคธุรกิจสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการจ้างงานไปลดหย่อนภาษีได้อีกทาง การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกระบี่ที่มีสาขาครบวงจรจะเป็นแรงดึงดูดให้ลูกหลานเล่าเรียนในพื้นที่ เมื่อจบการศึกษาจะได้พัฒนาในจังหวัดตนเอง
ขณะที่ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองฯ กล่าวปราศรัยว่า ขอให้คนใต้ช่วยเลือกผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ที่มีอุดมการณ์ ที่ตั้งใจเข้าไปทำงานเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน ไม่ใช่เข้าไปหาผลประโยชน์ ไปหากิน ไม่ใช่เข้ามาด้วยเงินที่ถูกประมูลตัว เพราะหากเริ่มต้นด้วยการใช้เงิน โดยเฉพาะการใช้เงินซื้อสิทธิขายเสียง เอาเงินมาฟาดหัวประชาชน จดชื่อ แล้วเอาเงินมาจ่าย นั่นแปลว่าเขาไม่เคยให้ราคาเรา เพราะประชาชนไม่เคยอยู่ในสมการของพวก ส.ส.แบบนั้น แต่ตนมั่นใจว่าคนใต้เป็นคนมีอุดมการณ์ทางการเมืองจะไม่เลือกคนเหล่านั้นเข้าไปเป็นตัวแทน และที่สำคัญเชื่อว่าคนใต้เราจะเลือกศักดิ์ศรี
น.ส.วทันยา ยังกล่าวว่า จากการลงพื้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องกัญชาเสรี เพราะมีลูกหลานติดกัญชาไม่ยอมไปเรียน แถมยังขู่ทำร้าย ดังนั้นจึงได้ย้ำจุดยืนของ ปชป.ที่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะ ปชป.พูดแล้วต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เอาแต่พูด พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ โดยไม่เคยคิดถึงอนาคตลูกหลาน แบบนี้ไม่ใช่ ปชป. ขอให้ชาวกระบี่มั่นใจได้ว่าทุกนโยบายของ ปชป. ตั้งต้นจากประชาชน โดยการทำโครงการ ฟัง-คิด-ทำ เพื่อรับฟังประชาชน คิดร่วมกับประชาชน และทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองเหมือนบางพรรคที่มีนโยบายออกมาทำลายอนาคตลูกหลาน
ส่วนเรื่องการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมีข้อมูลที่ให้ชวนสงสัยว่ามีการฉ้อฉลทุจริตเป็นจำนวนเงินถึง 68,000 ล้านบาท และทุกคนทราบดีว่ากระทรวงที่ดูแลเรื่องรถไฟฟ้า พรรคการเมืองใดเป็นคนดูแล ดังนั้นการที่เขาเอาเงินแค่หลักร้อย หลักพันมาให้กับเรา แล้วเทียบกับเงินที่มีข้อสงสัยในการทุจริตก็เชื่อว่าทุกคนก็คิดได้ว่านั่นแปลว่าเขาไม่ได้เห็นค่าเรา มองว่าเราเป็นของตาย และเขายังดูถูกด้วยการให้ราคาเราต่ำด้วย
"ชีวิตของเราจะดีขึ้นได้อย่างไร การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราเลือกได้ ด้วยการเริ่มต้นจากการเลือก ส.ส.ที่ดีมีอุดมการณ์ ไม่ใช่ ส.ส.ที่มุ่งหาแต่ผลประโยชน์ อำนาจ และพวกพ้อง ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ อย่าเลือก ส.ส.เพียงแค่เพราะเขาเอาเงินมาให้ มันไม่คุ้มค่ากับอนาคตของเราและลูกหลานที่ต้องเสี่ยงไปอีก 4 ปี อย่าเลือก ส.ส.เพียงแค่เขาบอกให้เลือก เพราะกลัวคนแดนไกลจะแลนด์สไลด์ แต่พูดได้เลยว่าแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง เราต้องอย่าเลือก ส.ส.เพียงเพราะกลัวอำนาจของรัฐ กลัวอำนาจท้องถิ่น ที่สำคัญเราต้องทำให้พวกที่คิดทรยศ ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ต้องได้รู้สำนึกว่าอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชนทุกคน" น.ส. วทันยา กล่าว