พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และครอบครัว นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ รองประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพมหานคร น.ส.ลิณธิภรณ์ วิริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคและรักษาการโฆษกพรรค น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล , นายพชร ธรรมมล ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส. กทม. อาทิ นายสุรชาติ เทียนทอง และ นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ลงพื้นที่ขอคะแนนประชาชน บริเวณตลาดนัดจตุจักร และตลาดสด อ.ต.ก.
ทันทีที่นายเศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทยเดินทางมาถึง มีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างรุมขอเซลฟีจำนวนมาก ประชาชนอวยพรขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง บางรายเรียกนายเศรษฐาว่า "นายกฯ" , "รอมานานแล้ว" บางรายเข้าไปกระซิบข้างหูนายเศรษฐาว่า "เบื่อสองลุง" และนายเศรษฐาได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาขอถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง และในช่วงหนึ่ง นายเศรษฐา เดินเข้าไปร้านขายน้ำ และสั่งโกโก้เย็น โดยมีชื่อเมนูว่า "โกโก้เบื่อลุง" ผู้สื่อข่าวถามนายเศรษฐา ว่ารสชาติเป็นอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า "โอ้ อร่อยดีครับ"
ช่วงหนึ่ง ระหว่างที่นายเศรษฐากำลังเดินขอคะแนนอยู่นั้น "พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน" และ " นายณภัทร ทวีสิน (หรือน็อบ)" ภรรยา และ ลูกชายของนายเศรษฐา เดินทางมาให้กำลังใจอีกด้วย
จากนั้น นายเศรษฐา เดินเท้าไปยังตลาด อ.ต.ก.ซึ่งนายเศรษฐา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นตลาดที่ตนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นประจำ มีร้านโปรดอาทิ ร้านกุ้ยช่าย ร้านทุเรียน โดยนายเศรษฐา ชอบรับประทานทุเรียนพันธุ์ก้านยาว
ทันทีที่นายเศรษฐา เดินถึงตลาด อ.ต.ก.พ่อค้าแม่ขายจำนวนมาก รวมถึงแรงงานต่างชาติ เข้ามาขอถ่ายรูปกับนายเศรษฐา ส่งเสียงเชียร์นายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยลั่นตลาด ทำให้ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ซึ่งเดินตามคณะหาเสียงมาด้วย กล่าวกับพ่อค้าแม่ขาย รวมถึงแรงงานต่าวชาติว่า "ค่าแรง 600 เราไม่ได้ให้เฉพาะคนไทยนะ แต่พี่น้องที่ทำงานในประเทศเราก็ได้ทุกคน"
จากนั้น นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. โดยเมื่อถามว่า ตลาดแตกเหมือนกันนะมาที่ อ.ต.ก. นายเศรษฐา ตอบว่า แล้วแต่ว่าเปรียบเทียบกับใคร ยินดี และดีใจ ตนเป็นขาประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มาแค่หาเสียง เมื่อถามว่า สะท้อนภาพว่ากระแสเราก็ดีเหมือนกัน นายเศรษฐา กล่าวขอบคุณ
เมื่อถามถึงหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อชนะเลือกตั้ง นายเศรษฐา ตอบว่า เราคงนำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป ตนคิดว่าประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว พรรคเพื่อไทย พิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน ว่าเราคิดใหญ่ ทำเป็น นโยบายใหญ่ ๆ ดี ๆ เราทำได้มาตลอด เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนตลอด ครั้งนี้วันที่ 14 พ.ค. เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับไปนั่งคิดว่าพรรคไหนทำให้เราได้ แล้วบุคลากรที่ยังอยู่ในพรรคก็มีอยู่เยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ช่วงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายเด็ดออกมา เพื่อให้คนกาพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ตอบว่า หากดูจากหลายโพล คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แต่ก็เหลืออยู่บ้าง หน้าที่ตอนนี้คือต้องขยายความนโยบายหลักของเรา ทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจว่าทำได้จริง พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จมาตลอดในการนำเสนอนโยบายใหญ่ จึงไม่เป็นอะไรที่แปลกใจที่เราจะทำได้อีก
เมื่อถามถึงข้อร้องเรียนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น นายเศรษฐา ตอบว่า มั่นใจในการทำงานของทีมงาน และการทำงานด้วยความเป็นธรรมของ กกต. ตรงนี้มีหลายกระแส และพี่น้องต้องจับตาด้วย เพราะการเลือกตั้งนี้ทุกคนทุกพรรค ต้องการให้ขาวสะอาด สะท้อนภาพจริงที่ประชาชนอยากเห็น
เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายพรรคการเมืองเริ่มป่วย หรือออกอาการท้อและเหนื่อย นายเศรษฐา เป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา ตอบว่า ตนว่าคงไม่มีใครท้อ แต่ตนป่วยมา 10 วันแล้ว ไม่มีท้อ พักผ่อนได้หลังวันที่ 14 พ.ค. มั่นใจได้ว่าเดินหน้า เหยียบคันเร่งเต็มที่
เมื่อถามความเห็นต่อกระแสการตื่นตัวของประชาชนในการออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ นายเศรษฐา ตอบว่า ดีมากเลย คิดว่าเป็นการสะท้อนอย่างหนึ่ง ในช่วง 8 ปี เราเดือดร้อน เราเจ็บช้ำมาเยอะมาก จากรัฐบาลรัฐประหาร ตนเชื่อว่าคราวนี้กระแสประชาธิปไตยจะมาแรง วันนี้ไม่แปลกใจ ที่คนออกมาเยอะ จึงดีใจและชื่นชม
เมื่อถามว่า กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย มองว่าผิดปกติหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ต้องถามฝ่ายกฎหมาย เพราะส่วนตัวก็ลงพื้นที่ แต่มั่นใจว่า กกต. คงทำงานได้อย่างบริสุทธิ์ใจ มีความมุมานะ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาขาวสะอาดที่สุด