กลายเป็นประเด็นร้อนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งทันทีที่ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาทวิตข้อความเช้าวันนี้ประกาศความชัดเจนกำหนดการกลับบ้านมาเลี้ยงหลานหลังการเลือกตั้ง หรือภายในเดือน ก.ค.นี้ก่อนถึงวันคล้ายวันเกิด 26 ก.ค. ซึ่งยังอยู่ในช่วงการรับรองผลการเลือกตั้งภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลรักษาการที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พร้อมทั้งระบุถึงคำยืนยันว่าการกลับมาครั้งนี้พร้อมดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าพร้อมกลับมาติดคุกตามผลคำพิพากษาของคดีทุจริตและคดีทางการเมืองหรือไม่
การออกมาเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ อยู่ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้ "อินโฟเควสท์" ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้คนในโซเชียลมีเดียผ่าน DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด พบว่าเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลาย ทั้งมุมมอง Positive และ Negative
ชาวเน็ตพร้อมใจกันแห่เข้ามาโพสต์และทวีตข้อความเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก โดยค่าปฏิสัมพันธ์ (Engagement) ในตลอดครึ่งวันเช้าสูงถึง 45,843 ครั้ง ทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก 44,171 อินสตราแกรม 884 และทวิตเตอร์ 524
มุมมองของคนส่วนใหญ่เชื่อว่าการที่นายทักษิณประกาศกลับประเทศไทยตามกระบวนการทางกฎหมายจะช่วยให้คนจำนวนมากที่ยังลังเลหันมาลงคะแนนให้เพื่อไทย ซึ่งการออกมาประกาศก่อนเลือกตั้ง 2-3 วันเพื่อดึงแฟนคลับ อาจเป็นแคมเปญโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเรียกร้องความเห็นใจหวังผลทางการเมือง เพื่อให้เกิดแลนด์สไลด์ตามปณิธานของพรรค เพราะคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ เลือกที่ตัวพรรค ไม่ได้เลือกที่ตัวผู้สมัคร ส.ส.
และ บางความเห็นมองว่าการที่นายทักษิณกำหนดว่าจะกลับมาหลังเลือกตั้ง เพราะประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล โดยคาดว่าจะส่งแกนนำคนสำคัญ คือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไปนั่งเป็น รมว. ยุติธรรม ตามเดิม ซึ่งมอว่ามีโอาสที่จะเข้าไปเสนอให้นายทักษิณเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมและลดโทษให้ 90%
แต่มีหลายความเห็นไม่เชื่อว่านายทักษิณจะกลับบ้านมาจริง เพราะเคยพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว หากจะกลับมารับโทษจริง ทำไมไม่กลับมาก่อนหน้านี้ จึงมองว่าการออกมาพูดเป็นแค่แผนการดึงคะแนนเสียงเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง มองในแง่ Negative ว่าไม่ได้ส่งผลดีต่อการที่พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ โดยเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ "ไม้ตาย" แต่เป็นการ "ฆ่าตัวตาย" มากกว่า การออกมาทำแบบนี้อย่าหวังจะแลนด์สไลด์ แต่เชื่อว่าจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยจะลดลงไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการโยนระเบิดใส่พรรคเพื่อไทย จากเคยมีหวังว่าจะได้ 310 เสียง อาจเหลือต่ำกว่า 150 เป็นการทำร้ายตัวเองมากกว่าจะเป็นผลดี
"มีทั้งผลดีและผลเสียกับพรรคเพื่อไทย เพราะหากเป็น FC หรือ คนสนับสนุนนายทักษิณ ก็จะเกิดผลดีกับพรรค แต่ทางด้านคนที่ไม่ชอบ นายทักษิณ แต่ไม่เอาลุง ผลดีจะตกไปที่ ก้าวไกล เสรีรวมไทย ไทยสร้างไทย ต้องอย่าลืมว่าคนที่ไม่ชอบนายทักษิณมีอยู่มาก" หนึ่งในความเห็นผ่านสื่อโซเชียลระบุ
ขณะที่นักวิชาการการเมืองก็แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ โดยนายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองอย่างแน่นอน แต่อาจเป็นช่วงจังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยที่หวังให้เกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์
ประเด็นที่ทำให้เกิดข้อสงสัยคือ เนื้อหาที่สื่อสารออกมาครั้งนี้อาจทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ หากนายทักษิณจะกลับบ้านต้องขออนุญาตใคร หรือมีดีลลับกับใครหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนายทักษิณอยู่ระหว่างหลบหนีคดี
"ช่วงจังหวะเวลาไม่เหมาะสม อาจไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ถือว่าพลาด กลุ่มคนรักทักษิณที่กำลังลังเลอาจตัดสินใจไปช่วยพรรคก้าวไกลหรือฝั่งตรงข้าม เพราะทำให้เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยทำเพื่อทักษิณ" นายโอฬาร กล่าว
แนวทางการทำงานการเมืองของนายทักษิณเป็นแบบเดิม ซึ่งเป็นระบบซีอีโอคุมทุกอย่าง ไม่ใช่เปิดเผยตามวิถีทางประชาธิปไตย สามารถเจรจาต่อรองกันได้เพื่อให้ทุกฝ่ายสมประโยชน์ เรื่องนี้อาจเป็นการแก้เกมการเมืองหลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นายเศรษา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโควต้ากระทรวงหลักที่ต้องการดูแลหากได้เป็นรัฐบาลเมื่อคืนนี้ ตรงกับกระทรวงหลักที่พรรคก้าวไกลหวังไว้หากได้เป็นรัฐบาล และการเจรจาต่อรองกับพรรคก้าวไกลคงไม่ใช่เรื่องง่าย
"ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เรื่องนี้น่าจะแก้เกมก้าวไกล" นายโอฬาร กล่าว
ด้านนายสุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เห็นว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้สนับสนุนคาดหวังอยู่แล้ว ครั้งนี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นถึงกำหนดเวลาและขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีอะไรที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องสิทธิพิเศษ ไม่น่าจะหวังผลเรื่องแลนด์สไลด์ เพราะสถานการณ์เรื่องนั้นค่อนข้างนิ่งแล้ว แต่อาจถูกฝั่งตรงข้ามนำไปใช้โจมตีหาเสียงได้
"เรื่องแลนด์สไลด์ไม่น่าจะมีผล เพราะคะแนนค่อนข้างนิ่งแล้ว ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ" นายสุขุม กล่าว