นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ตนจะไปใช้สิทธิที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะทะเบียนบ้านอยู่ที่นั่น และจะรอฟังผลการนับคะแนน พร้อมให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น หากเป็นไปตามเป้าแล้วมีโอกาส ก็พร้อมทำงานต่อ แต่หากไม่ได้ตามเป้า ก็เปลี่ยนไปทำหน้าที่อีกบทบาทหนึ่ง
"หลังปิดหีบ ช่วงค่ำประมาณ 3-4 ทุ่มโทรศัพท์ก็เริ่มดังแล้ว แต่คงยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในวันนั้น เพราะเป็นเพียงคะแนนดิบ ต้องรอ กกต.ประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ส่วนจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการรับรองผลจาก กกต.ซึ่งระบุว่าจะประกาศภายใน 60 วัน" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนการจับขั้วทางการเมืองจะชัดเจนหลังรู้ผลการนับคะแนนอย่างหลวมๆ ซึ่งก็มีแนวทางอยู่แล้ว จะไปพูดก่อนไม่ได้ และระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และไม่ควรเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขอให้เริ่มดูตั้งแต่การเลือกประธานรัฐสภา เพราะไม่ได้อาศัยเสียง ส.ว. จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้อย่างไร การตั้งประธานรัฐสภาได้ ก็แปลว่าเริ่มมีแนวโน้มว่าเป็นกลุ่มก้อนไหน
ส่วนความมั่นใจที่จะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น คิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมี ส.ส.ในสภาแน่นอน แต่ขอให้เป็นทีละขั้นตอน ขณะนี้ยังไม่คิดถึงเรื่องร่วมรัฐบาล นอกจากจะทำให้ผู้สมัครได้รับชัยชนะ เช่นเดียวกันคงไปบอกก่อนไม่ได้ว่าหากเป็นรัฐบาลจะดูแลกระทรวงคมนาคมหรือไม่ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันที่เราจะไปจับมือร่วมรัฐบาล
"กระทรวงคมนาคม มีเจ้าของด้วยเหรอ จะไปบอกได้หรือว่าคนนี้ห้ามนั่งกระทรวงนี้ พรรคนั้นห้ามนั่งกระทรวงนี้ แล้วตัวเองอยากจะนั่ง แล้วพรรคที่บอกว่าห้ามนั่ง งั้นตัวเองก็ห้ามนั่งด้วยสิ พูดไปก็มีแต่ความขัดแย้ง วันนี้น่าจะลดความขัดแย้ง ปากก็บอกจะไม่มีความขัดแย้ง ยังไม่ทันอะไร ยังไม่ทันจะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ในมือ มานั่งจัดโควตากันก่อนแล้ว ถ้าเกิดภูมิใจไทยบอกว่าถ้าทำแบบนี้ไม่ให้ใครเป็นนายกฯ บ้างล่ะ" นายอนุทิน กล่าว