นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยภายหลังเข้ารับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ตนได้ยื่นฟ้อง กกต. และสำนักงานกกต. ที่มีมติเลิกจ้างก่อนครบสัญญาจ้าง และออกประกาศ กกต. ลงวันที่ 8 ธ.ค.58 ให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต. ว่า ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่ชอบด้วยสัญญาจ้าง เพราะเป็นการใช้หลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานที่กำหนดขึ้นใหม่ โดยตนไม่ได้ยินยอมด้วยมาใช้ประเมินผลงาน ถือเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยสัญญาจ้าง และให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ยให้กับตนเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
"เราต่อสู้ว่า การให้เราพ้น หรือปลดจากเลขาธิการกกต. เมื่อปี 58 ไม่เป็นธรรม สู้มาตั้งแต่ 8 ธ.ค. 58 จนถึงปัจจุบัน จริงๆ แล้วคือ กกต.ไม่ได้ทำตามสัญญา และที่ตลกมาก คือสิ่งที่เอามาประเมินผม มาบอกผม เมื่อเริ่มการประเมินไปแล้ว และเหลือเวลาอีก 8 เดือนผมก็จะเกษียณแล้ว โดยเมื่อถึงเวลาประเมิน ก็เรียกหลายคนมาประเมินว่าเลขาฯ กกต.มีข้อผิดพลาดเรื่องจรรยาบรรณ...ผมจึงมาต่อสู้ทางศาล ขณะที่ต่อสู้ อดีตกกต. ก็ไปฟ้องคดีหมิ่นประมาท กล่าวหาว่าผมไปว่าให้เสียหาย แต่ในที่สุด ท่านก็ต้องถอนคดีเอง เพราะว่าท่านผิดเอง ในเรื่องการฟ้องร้องต่างๆ มาวันนี้ 8 ปีเกียรติยศของอดีตเลขาธิการ กกต. ได้กลับคืนมาแล้ว ซึ่งดีใจมาก เพราะรอมา 8 ปี ต้องขอขอบคุณศาลปกครองที่ให้ความยุติธรรม" นายภุชงค์ กล่าว
ส่วนจะดำเนินการกับอดีต กกต.ที่ทำให้เสียหายอย่างไรนั้น ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
สำหรับนายภุชงค์ ถูกกกต. ชุดที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธานกกต. มีมติเลิกจ้าง พร้อมกับให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต. โดยให้เหตุผลการเลิกจ้างว่า เนื่องจากนายภุชงค์ มีผลการประเมินการปฏิบัติงานปีงบประมาณ 58 ไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการต่อสัญญา
ซึ่งนายภุชงค์ เห็นว่ามติดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่สัญญาจ้างกำหนด จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติ และประกาศ กกต.เรื่องให้เลขาธิการกกต.พ้นจากตำแหน่ง ลงวันที่ 8 ธ.ค. 58