พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เริ่มกิจกรรมปราศรัยเวทีใหญ่ ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น - ดินแดง อาคารกีฬาเวสน์ 2 โดยมีมวลชนทยอยเดินทางเข้ามารอฟังการปราศรัย
ขนะเดียวกัน ก่อนที่จะมีการปราศรัยเริ่มขึ้นบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้งหมด ได้พร้อมใจกันโพสต์สโลแกนใหม่บนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เลือกลุงป้อม นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย"
ในการปราศรัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญ วันปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนถึงการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้ ขอขอบคุณประชาชนที่มาฟังปราศรัย สัญญาว่าทุกนโยบายที่หาเสียงไว้จะทำให้สำเร็จ เพราะตนเป็นบุคคลที่ไม่มีภาระ ไม่มีธุรกิจ และไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง มีเพียงภารกิจเดียวที่จะเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิต คือ การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญให้ประเทศไทย
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาของการเป็นฝ่ายรัฐบาล ตนสามารถพูดคุยกับทุกคน รับฟังความเห็นต่างได้จากทุกฝ่ายโดยไม่มีอคติใดๆ โดยตลอดชีวิตของตนมีหน้าที่ปกป้องประเทศจากศัตรู และภัยอันตรายในรูปแบบต่างๆ ทั้งความมั่นคง และการป้องกันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาอีกมาก โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ปัญหาปากท้อง รวมถึงการก้าวข้ามความขัดแย้ง และการร่วมสถาบัน จากการแทรกแซงทางการเมืองทั้งภายในและนอกประเทศ ซึ่งตนและพรรคฯ มุ่งมั่นที่จะเอาชนะปัญหาของประชาชนในเรื่องเหล่านี้ให้ได้
"ทุกนโยบายที่รับปากพี่น้องประชาชน ผมจะทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะทำทันที โดยที่อยากให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นว่าผมทำได้ พรรคฯ และผู้บริหารของพรรคฯ จะร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนทุกคน ขอให้เชื่อมั่นในตัวผมว่าจะนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง ขอให้เลือกผม และพรรคพลังประชารัฐ ประเทศชาติจะไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจจะเดินหน้า ค้าขายเจริญรุ่งเรือง เราจะก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน" พล.อ.ประวิตร กล่าว