นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ชี้ปรากฏการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่ง ลั่น 14 พฤษภาคม คือการเลือกระหว่าง "อดีต" กับ "อนาคต" พร้อมสื่อถึงคนทุกรุ่น ถึงเวลาฉวยโอกาสกากบาทสร้างความเปลี่ยนแปลง
นายปิยบุตร กล่าวว่า ที่แห่งนี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่ 22 มีนาคม 2562 ตนมายืนอยู่ที่นี่ที่เดียวกันนี้ ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ 4 ปีผ่านไปเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล การทำงานของสมองมนุษย์จะเรียกเอาความทรงจำในอดีตกลับขึ้นมาทุกครั้ง เพื่อใช้ตัดสินใจอนาคต ทำให้อดีตของเราทุกคนกลายมาเป็น "กรงขังของอดีต" มาครอบงำอนาคตโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นว่ามนุษย์แต่ละคนจะตัดสินใจเรื่องในอนาคตอย่างไร เรากลับเอาอดีตมาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจด้วย
พรรคก้าวไกลต้องการทลายกรงขังของอดีตนี้ เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตใหม่ ด้วยความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นผู้ทรงอำนาจ มีศักยภาพ ในการกำหนดอนาคตใหม่ร่วมกัน โดยไม่ต้องทำซ้ำ ทำย้ำแบบอดีต การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการปะทะกันระหว่างอดีตกับอนาคต กลุ่มคนที่ครองอำนาจอยู่ปัจจุบันเขาพยายามจะให้เราอยู่กับอดีต อดีตอันเป็นวันชื่นคืนสุขของพวกเขา แต่พวกเราจะยืนยันว่าเราจะเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ วันที่ 14 พฤษภาคม จะเป็นวันสำคัญให้เราต้องชี้ชะตา ต้องเลือกว่าเราจะเอาอดีตหรือจะเอาอนาคต
ทุกเส้นทางของคาราวานก้าวไกลทั่วประเทศไทย แต่ละเส้นทางที่พวกเราผ่าน แต่ละเวทีที่เราได้ไปปราศรัย ได้พบปะกับพี่น้องประชาชน สายตาของพี่น้องประชาชนที่มองมาที่พวกเรามีแต่ความหวัง มีแต่กำลังใจ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง หวังว่ายานพาหนะที่ชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะนำพาความฝันความหวังของทุกคน เข้าไปมีอำนาจรัฐและลงมือทำเปลี่ยนแปลงมัน และด้วยความหวังที่แพร่กระจายไปทั่วเช่นนี้เอง ดุจดั่งปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งทั่วประเทศ
"เขายังกลัวอีกว่า ถ้าวันนี้เขาไม่แลนด์สไลด์ เขาจะไม่ได้กลับมามีอำนาจอีก แต่สำหรับพวกเรา เรามีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน" นายปิยบุตรกล่าว
ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอใช้เวทีนี้สื่อสารไปถึงคนทุกช่วงวัย เยาวชนคนรุ่นใหม่ขอให้ทุกคนจงมีความหวังต่อไป อย่าท้อแท้ อย่าท้อถอย เยาวชนคนหนุ่มสาวจะต้องอยู่ในโลกนี้ไปอีกนาน พวกเรามีความชอบธรรมสูงสุดในการกำหนดอนาคตของประเทศไทยด้วยตัวเอง อดทนด้วยความหวัง ลงมือทำด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ อย่าเพิ่งหนีออกจากประเทศไทยไป
สำหรับคนรุ่นเดียวกับตน ที่เริ่มสร้างครอบครัวมีบุตรหลานเข้าสู่วัยเรียน ชีวิตแต่ละคนจะมีคุณค่าได้ ต้องมีคุณค่าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ออกจากพื้นที่อันปลอดภัยของตนเอง แล้วกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมร่วมกัน เราจะทนส่งมอบสังคมแบบนี้ให้กับลูกหลานของเราในรุ่นถัดไปไม่ได้
ส่วนคนรุ่นก่อนตน ที่ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แล้ววันนี้รู้สึกว่าตนเองประสบความพ่ายแพ้ รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดฝันเป็นไปไม่ได้แล้วในสังคมไทย นายปิยบุตร กล่าวว่า วันนี้สังคมใหม่ โลกใหม่ สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว มาร่วมกันทำความฝันเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริง อย่าคิดแต่เพียงว่านี่เป็นเรื่องเพ้อฝัน เราจะเปลี่ยนแปลงโลกใหม่ไปด้วยกัน
นายปิยบุตร กล่าวว่า ทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนมีคุณค่า มีความหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ไม่ได้ทำให้แค่ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่อีกบัตรอีกใบที่พี่น้องไปกา ส.ส.เขต มีความสำคัญยิ่ง เพราะผู้สมัคร ส.ส. ไม่มีระบบคะแนนจัดตั้งหรือกลไกเครือข่ายอุปถัมภ์ในพื้นที่ ดังนั้นการต่อสู้แข่งขันในการเลือกตั้งของพวกเรา เชื่อเหลือเกินว่าเวลาจะชนะกันในแต่ละเขตคะแนนจะเบียดกันสู้สีมาก ดังนั้นพี่น้องที่แบ่งใจไปให้ที่อื่นๆ ไม่กาให้ก้าวไกล ก็มีโอกาสที่ ส.ส. เขตจะสอบตกได้ นี่คือความสำคัญของทุกคะแนนเสียง มีคุณค่ามากมายมหาศาลที่จะกำหนดว่าเราจะได้ผู้แทนราษฎรแบบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่
"แม้ว่าพวกเราจะถูกกระทำย่ำยีมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ถูกเหยียบกระทืบให้จมดิน ถูกย่ำยี แต่ถึงเวลา ผู้คนก็ยังพร้อมใจกันออกมาสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากกว่าเดิม ที่สำคัญที่สุด คะแนนเสียงทั่วประเทศ คือสัญลักษณ์ว่าคนเหล่านี้ อยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทยแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้คือตัวแทนของพลังแบบใหม่ ที่จะทำให้พลังแบบเก่าล้มระเนระนาดไป" นายปิยบุตร กล่าว
พร้อมย้ำว่า 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือร่วมใจกันไปกากบาทพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม หยุดอดีต เดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน