ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก"วาสนา-ปริญญา-วีระชัย" และตัดสิทธิทางการเมือง

          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 3 อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คนละ 4 ปีโดยไม่รอลงอาญา พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองอีกคนละ 10 ปี หลังถูกนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยื่นฟ้องต่อศาลในข้อหาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีจัดการเลือกตั้งโดยเปิดโอกาสให้เลี่ยงหลักเกณฑ์ 20%
          สำหรับจำเลยในคดีนี้ประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต., นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต.
          โดยคำฟ้องระบุว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และ มาตรา 42 เนื่องจากร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.49 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนถึงผู้อำนวยการ กกต.เขตเลือกตั้ง ให้รับผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ถึง 20% เปลี่ยนเขตลงสมัครในรอบใหม่ ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนลงรับสมัครเลือกตั้งรอบใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้สมัครรายเดียวพรรคไทยรักไทยหลีกเลี่ยงเกณฑ์ 20%
          ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.49 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้จำคุกคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 10 ปี
          ต่อมาจำเลยอุทธรณ์คดีโดยอ้างว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องและเป็นการฟ้องซ้ำ อีกทั้งจำเลยที่ 2 และ 4 ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา รวมทั้งอุทธรณ์ขอลดโทษโดยอ้างคุณงามความดีที่เคยปฎิบัติหน้าที่มา
          ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสามทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนที่อ้างว่าได้ปฎิบัติหน้าที่รับใช้ประเทศชาตินั้น ศาลเห็นว่าการที่จำเลยทั้งสามได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.กลับไม่ได้ดำเนินการหรือประพฤติตัวตามหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ
          "พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา เพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี เนื่องจากไม่มีเหตุอันควร วินิจฉัยอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น" คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ระบุ